สรุปความเห็นนักวิเคราะห์ต่อทิศทางตลาดเงินตลาดทุนสัปดาห์นี้
- ค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มปรับตัวอ่อนค่าลง โดยนักวิเคราะห์ 6 ราย เห็นว่า ค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้อาจปรับตัวอ่อนค่าลงเล็กน้อย หาก กนง. คงอัตราดอกเบี้ย ไว้ที่ 1.75% และหากรัฐบาลออกมาตรการเพื่อชะลอการแข็งค่าเงินบาทรอบที่ 2 รวมทั้งแรงขายเริ่มลดน้อยลง เนื่องจากมาตรการภาษีสำหรับผู้ถือ bond จากนักลงทุนต่างชาติ 20% และค่าเงินบาทที่แข็งในระดับ 29.90 ทำให้อัตราเงินเฟ้อไม่สูงมากนัก
- อัตราดอกเบี้ย R/P 1 วัน คงอัตราดอกเบี้ย 1.75% โดยนักวิเคราะห์ 6 ราย เห็นว่า กนง. อาจจะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อไม่ให้เงินบาทแข็งขึ้นมากกว่านี้
- สำหรับ Bond Yield อายุ 2 ปี มีแนวโน้มปรับตัวลดลง โดยนักวิเคราะห์ 5 ราย เห็นว่า อัตราผลตอบแทนระยะสั้นมีแนวโน้มปรับตัวลดลง เนื่องจากสภาพคล่องในระบบสูงทำให้นักลงทุนยังมีความต้องการลงทุนในตลาดพันธบัตร และคาดว่า ธปท. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในสัปดาห์นี้
- คาดว่า Bond Yield อายุ 10 ปี มีแนวโน้มปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยนักวิเคราะห์ 5 ราย เห็นว่า อัตราผลตอบแทนระยะยาวมีแนวโน้มปรับตัวลดลงเช่นกัน เนื่องจาก ยังไม่มีปัจจัยใหม่ ๆ เข้ามาในตลาด
- คาดว่า SET มีแนวโน้มตัวเพิ่มขึ้น โดยนักวิเคราะห์ 7 ราย เห็นว่า ดัชนีอาจปรับตัวขึ้นทดสอบระดับ 1,000 จากแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 3/2553 ของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐที่น่าจะออกมาดี แต่การปรับขึ้นของดัชนี ก็อาจจะถูกถ่วงไว้จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ปัจจัยเศรษฐกิจในประเทศ คือ ความชัดเจนการประชุม กนง. (20 ต.ค.) นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ 2% จากปัจจุบันที่ 1.75% แต่เนื่องจากแรงกดดันของเงินบาทที่แข็งค่าทำให้เริ่มมีความเห็นต่างมากขึ้น อาจทำให้ กนง. ตัดสินใจต่างออกไป รวมทั้งการรายงานตัวเลขการส่งออกของไทยโดยกระทรวงพาณิชย์ และปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศ คือ การติดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านที่อยู่อาศัย และประเด็นเกี่ยวกับการดำเนินมาตรการ ผ่อนคลายรอบใหม่ของเฟด
- นักวิเคราะห์ 4 ราย เห็นว่า นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน เนื่องจากสภาพคล่องทางการเงินที่ล้นอยู่ในระบบ น่าจะทำให้นักลงทุนยังคงนำเงิน เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง
ความเห็น สศค.
- คาดว่า นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน เพื่อเก็งกำไรจากการแข็งค่าของสกุลเงินในภูมิภาค และเพิ่มการลงทุนในเอเชีย
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th