ไตรมาสที่ 3 ปี 2553 (ก.ค.53-ก.ย.53) ดุลบัญชีเงินทุนเกินดุล 8,128 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2,047 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ดุลการชำระเงินเกินดุล 9,271 ล้านดอลลาร์สหรัฐ1 ซึ่งเป็นการเกินดุลสูงสุดในรอบ 2 ปี สำหรับสาเหตุสำคัญของการเกินดุลบัญชีเงินทุน เนื่องจากมูลค่าการลงทุนโดยตรงปรับตัวเพิ่มขึ้น และการลงทุนในหลักทรัพย์จากต่างประเทศปรับตัวสูงขึ้นมากจากไตรมาสก่อนหน้านี้ ทั้งในตราสารทุนและตราสารหนี้
คาดว่าไตรมาสที่ 4 ปี 2553 (ต.ค.53-ธ.ค.53) ดุลบัญชีเงินทุนเกินดุล 3,800 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากไตรมาสที่ 3 ซึ่งมีการเกินดุลสูงสุดในรอบ 2 ปี โดยสาเหตุสำคัญมาจากการลงทุนในตลาดตราสารทุนและตราสารหนี้ของนักลงทุนต่างชาติลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ที่มีการซื้อสุทธิในระดับสูง
ไตรมาส 3 ปี 2553 (ก.ค.53-ก.ย. 53) ดุลบัญชีเงินทุนเกินดุล 8,128 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2,047 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ดุลการชำระเงินเกินดุล 9,271 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับสาเหตุสำคัญของการเกินดุลบัญชีเงินทุนเกิดจากมูลค่าการลงทุนโดยตรงปรับตัวเพิ่มขึ้น และการลงทุนในหลักทรัพย์จากต่างประเทศปรับตัวสูงขึ้นมากจากไตรมาสก่อนหน้านี้ ทั้งในตราสารทุนและตราสารหนี้จากกระแสการเก็งกำไรค่าเงินและการเพิ่มการลงทุนในเอเชีย รวมทั้งการที่เศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
1.1 สถานการณ์การลงทุนโดยตรง ไตรมาส 3 ปี 2553
การลงทุนโดยตรงสุทธิในไตรมาสที่ 3 ปี 2553 มีมูลค่า 1,668 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 194.7 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศมีมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมีเงินทุนไหลออกลดลงร้อยละ 78 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนสำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีมูลค่า 1,868 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.4 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
1.2 สถานการณ์การลงทุนในหลักทรัพย์ไตรมาส 3 ปี 2553
การลงทุนในหลักทรัพย์สุทธิไตรมาสที่ 3 ปี 2553 มีเงินทุนไหลเข้ามูลค่า 3,448 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีเงินทุนไหลออกมูลค่า 2,496 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การลงทุนในหลักทรัพย์ในต่างประเทศมีเงินทุนไหลออก (การซื้อหลักทรัพย์ที่ลงทุนในต่างประเทศของนักลงทุนไทยและโอนเงินออกประเทศ) มูลค่า 252 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 94.8 สำหรับการลงทุนในหลักทรัพย์จากต่างประเทศมีเงินทุนไหลเข้ามูลค่า 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 56.2
การลงทุนในตราสารทุนจากต่างประเทศมีเงินทุนไหลเข้ามูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 19.4
สาเหตุที่มีการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากการเพิ่มการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับเศรษฐกิจในภูมิภาคและของไทยปรับตัวดีขึ้นรวมทั้งค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องทำให้ นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดทุนไทยเพิ่มขึ้น สำหรับการลงทุนในตราสารหนี้จากต่างประเทศ มีเงินทุนไหลเข้า 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 97.9
จากข้อมูลตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพบว่า การซื้อขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในไตรมาสที่ 3 ปี 2553 มีมูลค่า การซื้อสุทธิ 58,907 ล้านบาท ซึ่งสุทธิสูงสุดในรอบ 2 ปี สาเหตุที่มีการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติเนื่องจากการเพิ่มการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุนต่างชาติ และเศรษฐกิจในภูมิภาคและของไทยปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องทำให้นักลงทุนต่างชาติลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น และค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นตามภูมิภาคเช่นกัน
1.3 สถานการณ์การลงทุนอื่น ๆ ไตรมาส 3 ปี 2553
การลงทุนอื่น ๆ สุทธิไตรมาสที่ 3 2553 มีเงินทุนไหลเข้า 3,012 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 36.9ทั้งนี้ เนื่องจากภาคธุรกิจอื่น ๆ มีการลดการถือครองสินทรัพย์ต่างประเทศและนำเงินกลับน้อยลง
คาดว่าไตรมาสที่ 4 ปี 2553 ดุลบัญชีเงินทุนเกินดุลอยู่ที่ 3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 43.3 และลดลงจากไตรมาส 3 ซึ่งมีการเกินดุลสูงสุดในรอบ2 ปี สาเหตุสำคัญมาจากการลงทุนในตลาดตราสารทุนและตราสารหนี้ของนักลงทุนต่างชาติลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ที่มีการซื้อสุทธิ ในระดับสูง
คาดว่าการลงทุนโดยตรงสุทธิไตรมาสที่ 4 ปี 2553 มีมูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 266.2 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศลดลงขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นในทิศทางเดียวกับมูลค่าการออกบัตรส่งเสริมการลงทุนของ BOI ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน
คาดว่าการลงทุนในตราสารทุนของชาวต่างชาติในไตรมาสที่ 4 ปี 2553 จะมีมูลค่าเงินทุนไหลเข้า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากข้อมูลการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหลักทรัพย์ คาดว่านักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อหลักทรัพย์ไทยทั้งในตราสารทุน และตราสารหนี้ในระดับสูง จากกระแสการไหลเข้าของเงินทุนสู่ภูมิภาคเอเชียรวมทั้งประเทศไทยการที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวแข็งแกร่ง และการอ่อนตัวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับการลงทุนอื่น ๆ คาดว่ามีการไหลเข้า 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 62.7 เนื่องจากการลดการถือครองสินทรัพย์ต่างประเทศ
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th