ผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนตุลาคม 2553 และรายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 19, 2010 08:25 —กระทรวงการคลัง

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอสรุปผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนตุลาคม 2553 พร้อมทั้งรายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2553 ดังนี้

ผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ

1. การกู้เงินภาครัฐ

1.1 ผลการกู้เงินในประเทศของรัฐบาล

การกู้เงินในประเทศของรัฐบาลในเดือนตุลาคม 2553

ในเดือนตุลาคม 2553 กระทรวงการคลังได้เบิกเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 เพื่อดำเนินการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 จำนวน 6,000 ล้านบาท และกู้เงิน เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 16,000 ล้านบาท

1.2 ผลการกู้เงินในประเทศของรัฐวิสาหกิจ

การกู้เงินในประเทศของรัฐวิสาหกิจในเดือนตุลาคม 2553

ในเดือนตุลาคม 2553 รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศจำนวน 650 ล้านบาท

2. การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศ

2.1 การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาล

การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลในเดือนตุลาคม 2553

ในเดือนตุลาคม 2553 กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศ โดยการออกพันธบัตร 8,000 ล้านบาทและทดรองจ่ายจากบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลัง (Premium FIDF 1 และ FIDF 3) 410.55 ล้านบาท เพื่อชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น 8,410.55 ล้านบาท ที่กู้มาเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ระยะที่สอง (FIDF 3) ที่ครบกำหนดไถ่ถอนเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2553 จำนวน 54,731.02 ล้านบาท อย่างไรก็ดี การปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวจะไม่ปรากฏ เนื่องจากจะเป็นการนับซ้ำกับการปรับโครงสร้างหนี้ที่ได้รายงานไปแล้วในเดือนสิงหาคม 2553

2.2 การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจ

การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจในเดือนตุลาคม 2553

ในเดือนตุลาคม 2553 รัฐวิสาหกิจได้ปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศเป็นเงิน 3,430 ล้านบาท

3. การชำระหนี้ภาครัฐ

ในเดือนตุลาคม 2553 กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้โดยใช้เงินงบประมาณ รวม 4,023.83 ล้านบาท ดังนี้

  • ชำระหนี้ในประเทศ 3,315.31 ล้านบาท โดยเป็นการชำระต้นเงิน 500 ล้านบาท และดอกเบี้ย 2,815.31 ล้านบาท
  • ชำระหนี้ต่างประเทศ 708.52 ล้านบาท โดยเป็นการชำระต้นเงิน 528.90 ล้านบาท ดอกเบี้ย 179.62 ล้านบาท

รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2553

ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 กันยายน 2553 มีจำนวน 4,230,744.74 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 42.30 ของ GDP โดยเป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,907,482.31 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,083,982.57 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 177,179.43 ล้านบาท และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 62,100.43 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะลดลงสุทธิ 35,956.60 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) ลดลง 26,018.95 ล้านบาท 6,275.86 ล้านบาท และ 4,151.23 ล้านบาท ตามลำดับ สำหรับหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เพิ่มขึ้น 489.44 ล้านบาท ส่วนหน่วยงานอื่นของรัฐนั้น ไม่มีหนี้คงค้าง โดยรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงของหนี้สาธารณะ มีดังนี้

1. หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง

1.1 หนี้ในประเทศ

หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง 24,968.46 ล้านบาท โดยที่สำคัญเกิดจาก

  • การไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงิน 63,040 ล้านบาท
  • การไถ่ถอนตั๋วเงินคลัง 7,710 ล้านบาท

1.2 หนี้ต่างประเทศ

หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงลดลงจากเดือนก่อน 1,050.49 ล้านบาท และเมื่อคิดในรูปเงินเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.99 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจาก

  • ผลจากอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 18.61 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • สกุลเงินดอลลาร์แคนาดาได้มีการไถ่ถอนประมาณ 0.42 ล้านดอลลาร์แคนาดา หรือคิดเป็น 0.41 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • สกุลเงินเยนได้มีการเบิกจ่ายน้อยกว่าการไถ่ถอนประมาณ 47.43 ล้านเยน หรือคิดเป็น 0.57 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • สกุลเงินเหรียญสหรัฐได้มีการไถ่ถอนประมาณ 0.64 ล้านเหรียญสหรัฐ

โดยมีรายละเอียดหนี้ต่างประเทศที่รัฐบาลกู้โดยตรงในสกุลเงินต่างๆ

ทั้งนี้ หากพิจารณาในรูปเงินเหรียญสหรัฐ หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงจำแนกเป็นสกุล เงินต่างๆ

แผนภาพที่ 1 หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงจำแนกเป็นสกุลเงินต่างๆ

2. หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน

2.1 หนี้ในประเทศ

2.1.1 หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 574.21 ล้านบาท โดยเกิดจาก

  • องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพและการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ออกพันธบัตร 1,950 ล้านบาท และ 2,625 ล้านบาท ตามลำดับ ทั้งนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้ไถ่ถอนพันธบัตร 1,520 ล้านบาท และ 1,107 ล้านบาท ตามลำดับ
  • รัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลค้ำประกันมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ น้อยกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ 1,373.79 ล้านบาท

2.1.2 หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง 414.03 ล้านบาท โดยเกิดจาก

  • การไฟฟ้านครหลวงได้ออกพันธบัตร 1,000 ล้านบาท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ออกพันธบัตรน้อยกว่าการไถ่ถอน 375 ล้านบาท และการเคหะแห่งชาติได้ไถ่ถอนพันธบัตร 500 ล้านบาท
  • รัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ น้อยกว่า ชำระคืนต้นเงินกู้ 539.03 ล้านบาท

2.2 หนี้ต่างประเทศ

2.2.1 หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกันลดลงจากเดือนก่อน 5,420.08 ล้านบาท และเมื่อคิดในรูปเงินเหรียญสหรัฐ ลดลง 22.75 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจาก

  • ผลจากอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 62.40 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • สกุลเงินเยนได้มีการเบิกจ่ายน้อยกว่าการไถ่ถอนประมาณ 7,092.69 ล้านเยน หรือคิดเป็น 84.50 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • สกุลเงินเหรียญสหรัฐได้มีการไถ่ถอนประมาณ 0.65 ล้านเหรียญสหรัฐ

โดยรายละเอียดหนี้ต่างประเทศรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) ในสกุลเงินต่างๆ

ทั้งนี้ หากพิจารณาในรูปเงินเหรียญสหรัฐ หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) จำแนกเป็นสกุลเงินต่างๆ

2.2.2 หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันลดลงจากเดือนก่อน 1,015.96 ล้านบาท และเมื่อคิดในรูปเงินเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 98.37 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจาก

  • ผลจากอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 130.92 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • สกุลเงินยูโรได้มีการไถ่ถอนประมาณ 10.34 ล้านยูโร หรือคิดเป็น 14.10 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • สกุลเงินเยนได้มีการไถ่ถอนประมาณ 709.26 ล้านเยน หรือคิดเป็น 8.50 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • สกุลเงินเหรียญสหรัฐได้มีการไถ่ถอนประมาณ 9.95 ล้านเหรียญสหรัฐ

โดยรายละเอียดหนี้ต่างประเทศรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลไม่ค้ำประกัน) ในสกุลเงินต่างๆ

ทั้งนี้ หากพิจารณาในรูปเงินเหรียญสหรัฐ หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลไม่ค้ำประกัน) จำแนกเป็นสกุลเงินต่างๆ

3. หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน)

3.1 หนี้ในประเทศ

หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า ลดลง 3,862.66 ล้านบาท โดยเกิดจาก

  • รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) มีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ น้อยกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ 3,826.66 ล้านบาท

3.2 หนี้ต่างประเทศ

หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) ลดลงจากเดือนก่อน 288.57 ล้านบาท และเมื่อคิดในรูปเงินเหรียญสหรัฐ ลดลง 2.83 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจาก

  • ผลจากอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.56 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • สกุลเงินเยนได้มีการไถ่ถอนประมาณ 555.97 ล้านเยน หรือคิดเป็น 6.65 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • สกุลเงินเหรียญสหรัฐ ได้มีการไถ่ถอน 0.74 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยรายละเอียดหนี้ต่างประเทศรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) ในสกุลเงินต่างๆ
ทั้งนี้ หากพิจารณาในรูปเงินเหรียญสหรัฐหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาล ค้ำประกัน) จำแนกเป็นสกุลเงินต่างๆ

4. หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ

หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 489.44 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของหนี้สินหมุนเวียน

หนี้สาธารณะ จำนวน 4,230,744.74 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 362,524.22 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.57 และหนี้ในประเทศ 3,868,220.52 ล้านบาท หรือร้อยละ 91.43 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 4,054,663.40 ล้านบาท หรือร้อยละ 95.84 และหนี้ระยะสั้น 176,081.34 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.16 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง รายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 11 และ 12 ตามลำดับ

ส่วนวิจัยนโยบายหนี้สาธารณะ สำนักนโยบายและแผน

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ

โทร. 0 2265 8050 ต่อ 5512

--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 136/2553 18 พฤศจิกายน 53--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ