ในช่วงเดือนที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ดังนี้
1. รัฐบาลเห็นชอบในหลักการให้ลดภาษีรายได้นิติบุคคลโดยหวังว่าภาคเอกชนจะเพิ่มการลงทุนและการจ้างงานในประเทศมากขึ้น
2. งบประมาณปี 2554 ของญี่ปุ่นมียอดสูงสุดเป็นประวัติการณ์
-----------------------------------
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2553 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการที่จะลดอัตราภาษีรายได้นิติบุคคลที่ปัจจุบันมีอัตราเท่ากับร้อยละ 40 ลงเหลือร้อยละ 35 ให้แก่บรรดาบริษัท โดยนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นาย Naoto Kan ได้เรียกร้องว่ารัฐบาลต้องการให้เอกชนนารายได้ที่เพิ่มขึ้นไปใช้เพื่อการลงทุนด้านในการขยายฐานการผลิต และเพิ่มการจ้างงานในประเทศขึ้นด้วย ซึ่งปัจจุบันถึงแม้บรรดาบริษัทนั้นจะแสดงท่าทียินดีต่อแผนการลดอัตราภาษีครั้งนี้ แต่ก็มีหลายฝ่ายมองว่าการกระทาดังกล่าวจะไม่ได้ส่งผลให้เศรษฐกิจเกิดความคล่องตัวเพิ่มขึ้นได้จริงๆ เนื่องจากรัฐบาลได้เปิดเผยว่าหากรัฐบาลลดภาษีรายได้นิติบุคคลลงร้อยละ 5 จะทาให้รายได้จากการเก็บภาษีของรัฐบาลลดลงเป็นจานวนประมาณเท่ากับ 1.5 ล้านล้านเยน และจะส่งผลให้รัฐบาลต้องหาแหล่งงบประมาณมาทดแทนในส่วนดังกล่าว ซึ่งรัฐบาลคาดว่าจะต้องมีการพิจารณาแก้ไขนโยบายลดหย่อนอัตราภาษีต่างๆที่ให้ต่อบริษัทเอกชนในปัจจุบัน โดยคาดว่าจะส่งผลให้ภาระภาษีของบริษัทเอกชนเฉพาะในส่วนภาษีที่เก็บโดยรัฐบาลกลางไม่รวมรัฐบาลท้องถิ่น เพิ่มขึ้นเป็นจานวนประมาณเท่ากับ 650 พันล้านเยน ทาให้สุดท้ายยอดเงินรวมที่เกิดจากการลดภาษีรายได้นิติบุคคลนั้นไม่สูงอย่างที่คาดไว้
ทั้งนี้การปรับระบบการจัดเก็บภาษีดังกล่าวนี้จะทาให้มีการจัดเก็บภาษีจากบุคคลทั่วไปมากขึ้น 1. คนที่มีรายได้เกิน 15 ล้านเยนจะจ่ายภาษีเพิ่มขึ้น โดยมีสิทธิหักลดหย่อนจานวนสูงสุดเป็น 2.45 ล้านเยน 2. หากคนมีรายได้เกิน 5.68 ล้านเยน ไม่สามารถหักค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูแลผู้ที่อยู่ในอุปถัมภ์ที่มีอายุระหว่าง 23-69 จากรายได้ได้ และ 3. ภาษีมรดกเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 55 จากปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 50
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2553 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบร่างงบประมาณปี 2554 มีวงเงิน 92.4 ล้านล้านเยนเพิ่มขึ้น 112.4 พันล้านเยน ซึ่งเป็นจานวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยเป็นการขาดดุลงบประมาณ 22.4 ล้านล้านเยน
รายได้จากการเก็บภาษีคาดว่าเพิ่มขึ้น 3.5310 ล้านล้านเยน อยู่ที่ 40.9270 ล้านเยน แต่รัฐบาลต้องออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อชดเชยการขาดดุลเท่ากับ 44.2980 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นยอดที่มีจานวนมากกว่ารายได้ติดต่อกันเป็นเวลา 2 ปีแล้ว
ส่วนงบประมาณรายจ่ายประกอบด้วย 1. งบประมาณสาหรับค่าใช้จ่ายสวัสดิการสังคม วงเวิน 28.7 ล้านล้านเยน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 2. งบประมาณสาหรับโครงการสาธรณูปโภคลดลงร้อยละ 5.1 อยู่ที่วงเงิน 5.5 ล้านล้านเยน 3. งบประมาณเพื่อสนับสนุนเลี้ยงบุตรวงเงิน 2.2 ล้านล้านเยน 4. งบประมาณสาหรับชาระหนี้รัฐบาลวงเงิน 21.5 ล้านล้านเยน และ 5. งบประมาณเพื่อสนับสนุนโครงการท้องถิ่น วงเงิน 16.8 ล้านล้านเยน
รัฐบาลจะเสนอร่างงบประมาณดังกล่าวในประชุมรัฐสภา ซึ่งจะเปิดครั้งต่อไปในเดือนมกราคม 2554
สานักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลัง ณ กรุงโตเกียว
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th