รายงานภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่น ประจำสัปดาห์ที่ 6 - 10 ธันวาคม 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 17, 2010 10:48 —กระทรวงการคลัง

ในช่วงเดือนที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ดังนี้

1. เดือนตุลาคม 2553 จานวนคำสั่งซื้อเครื่องจักรของญี่ปุ่นลดลงอย่างมาก

2. ยอดการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนตุลาคม 2553 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9

3. นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นสั่งการให้ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงร้อยละ 5

4. รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแผนแยก JBIC ออกให้เป็นอิสระจาก JFC

-----------------------------------

1. เดือน ตุลาคม 2553 จำนวนคำสั่งซื้อเครื่องจักรของญี่ปุ่นลดลงอย่างมาก

Cabinet office รายงานว่าคาสั่งซื้อเครื่องจักรลดลงร้อยละ 1.4 ในเดือนตุลาคม 2553 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เหลือยอดการสั่งซื้อคิดเป็นมูลค่า 745.7 พันล้านเยน ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็น 2 เดือนแล้วและลดลงมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 0.6 เนื่องจากการยอดการสั่งซื้อเครื่องโทรศัพท์มือถือลดลงอย่างมาก นอกจากนี้การส่งออกที่ชลอตัวลงและการใช้จ่ายการบริโภคที่คาดว่าจะลดลงอีก ทาให้คาดการณว่าภาวะเศรษฐกิจยังจะชลอตัวต่อไป

2. ยอดการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนตุลาคม 2553 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9

กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนตุลาคม 2553 มีจานวน 1.4362 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนหน้า เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นทาให้การส่งออกเพิ่มขึ้นไม่มาก

ยอดการเกินดุลการค้าและบริการเพิ่มขึ้นคิดเป็นมูลค่า 638.4 พันล้านเยน

ส่วนยอดการเกินดุลการค้ามีจานวน 912.9 พันล้านเยน ลดลงร้อยละ 2.6 โดยการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.8 มีมูลค่า 5.4143 ล้านล้านเยน การส่งออกเครื่องจักรและยานยนต์ส่งไปยังประเทศจีนและสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นขณะเดียวกันการนาเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 มีมูลค่า 4.5014 ล้านล้านเยน โดยการนาเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลวจากภูมิภาคเอเชียและอเมริกากลางและใต้

ส่วนการเกินรายได้จากดอกเบี้ยและเงินปันผลจากลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนหน้า มีมูลค่า 883.2 ล้านเยน รายละเอียดตามตารางที่แนบ

3. นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นสั่งการให้ลดภาษีเงินได้นิธิบุคคลลงร้อยละ 5

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นาย Naoto Kan ได้สั่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่นดาเนินการปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลลงร้อยละ 5 จากอัตราปัจจุบันในปีงบประมาณ 2554 โดยอัตราภาษีที่เก็บจริง (Effective tax rate) ของภาษีนิติบุคคล ในปี 2553 มีอัตราประมาณร้อยละ 40 ซึ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ยทั่วโลกที่มีอัตราอยู่ระหว่างร้อยละ 25-30 ทั้งนี้รัฐบาลจะลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลจากร้อยละ 40 เหลือร้อยละ 35 และหาเงินทดแทนส่วนที่สูญเสียรายได้จากการนี้ประมาณ 1.5 ล้านล้านเยน โดยไม่ออกพันธบัตรรัฐบาลใหม่อีก

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมยังได้กล่าวว่าการลดภาษีดังกล่าวจะส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวโดยการใช้จ่ายบริษัทที่จะเพิ่มขึ้น และหลีกเลี่ยงบริษัทย้ายฐานการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมไปยังประเทศที่มีค่าใช้จ่ายน้อยได้

4. รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแผนแยก JBIC ออกให้เป็นอิสระจาก JFC

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2553 ทีมวางแผนนโยบายเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์การเติบโตทางเศรษฐกิจของพรรค DPJ ซึ่งเป็นแกนนาของรัฐบาลปัจจุบันได้เปิดเผยข้อเสนอแนะการแยก Japan Bank for International Cooperation (JBIC) ออกจาก Japan Finance Corporation (JFC) ออกเป็นอิสระเพื่อส่งเสริมการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่การส่งออกเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นเช่น รถไฟฟ้าความเร็วสูง และโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นต้น เนื่องจากรัฐบาลปัจจุบันเห็นว่าการส่งออกเทคโนโลยีดังกล่าวนั้นเป็นปัจจัยสาคัญอย่างนึงในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ และรัฐบาลเห็นควรต้องช่วยลดความเสี่ยงของภาคเอกชนและให้ JBIC ทาหน้าที่เสริมความเชื่อมั่นต่อต่างประเทศอีกทางเพื่อจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว โดยนาย Koichiro Genba รัฐมนตรีประจาสานักนายก ที่รับผิดชอบด้านยุทธศาสตร์การบริหารประเทศ จะนาข้อเสนอดังกล่าวเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในวันที่ 10 ธันวาคม 2553 นี้เพื่อขอความเห็นชอบและจะนาเสนอต่อสภาในปีหน้าเพื่อให้มีการแก้ไขกฏหมายที่เกี่ยวข้องด้วย

เดิม JBIC นั้นเกิดจากการการควบรวมกิจการของ Export-Import Bank of Japan กับ Overseas Economic Cooperation Fund, Japan เมื่อปี 2542 และภายหลังได้มีการควบรวมของสถาบันการเงินเฉพาะกิจจานวน 4 แห่งได้แก่ 1. Japan Bank of International Cooperation: JBIC, 2.บรรษัทเงินทุนเพื่อลูกค้าขนาดย่อมหรือ Micro Credit (National Life Finance Corporation), 3.บรรษัทเงินทุนเพื่อธุรกิจขนาดกลางและย่อม (Japan Finance Corporation for Small and Medium Enterprises), 4. บรรษัทเงินทุนเพื่อการเกษตร ป่าไม้และประมง (Agriculture, Forestry, and Fisheries Finance Corporation) เป็น JFC ซึ่ง JFC ได้เริ่มดาเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 โดยได้แบ่งหน้าที่ออกเป็น 4 ฝ่ายใหญ่ตามหน้าที่เดิมของแต่ละหน่วยงาน ยกเว้น JBIC ที่ได้แบ่งฝ่ายที่มีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือเงินกู้ Yen Loan ภายใต้โครงการ Official Development Assistance (ODA) ไปควบรวมกับ JICA ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การดูแลของกระทรวงการต่างประเทศ และเหลือเพียงฝ่าย Export-Import ไว้ใน JFC แต่ภายหลังจากเกิด Lehman Shock ในช่วงสิ้นปี 2551 ได้ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงอย่างมาก จนทาให้ความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินเอกชนต่อภาคเอกชนที่ประสบปัญหาทางด้านการเงินนั้นไม่เพียงพอ จนทาให้ภาคเอกชนรวมทั้งประเทศกาลังพัฒนาที่ประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจเริ่มแสดงความต้องการความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินของรัฐเพิ่มขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน รัฐบาลจึงมีแผนจะแยก JBIC ออกมาเป็นอิสระอีกครั้งเพื่อทาหน้าที่ดังกล่าว

ดุลการชำระเงินระหว่างประเทศประจำเดือนตุลาคม 2553

(Balance of Payments)

หน่วย: พันล้านเยน++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

               รายการ                                               ตุลาคม 2553           ตุลาคม 2552
1. ดุลบัญชีเดินสะพัด (Current Account Balance)                            1,436.2              1,395.0
(เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า)                                               (2.9)               (42.4)
 1.1 ดุลการค้าและบริการ (Goods & Services Balance)                        638.4                611.5
    (เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า)                                           (4.4)                 (-)
   1.1.1 ดุลการค้า (Trade Balance)                                       912.9                937.4
    (เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า)                                          (-2.6)              (586.2)
    การส่งออก (Exports)                                               5,414.3              4,974.8
    (เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า)                                           (8.8)              (-24.4)
    การนำเข้า (Imports)                                               4,401.4              4,037.4
    (เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า)                                          (11.5)              (-37.4)
   1.1.2 ดุลบริการ (Services Balance)                                   -274.5               -325.9
 1.2 รายได้จากดอกเบี้ย/เงินปันผล (Income)                                   883.2                849.9
 1.3 การโอนรายได้ (Current Transfers)                                   -85.4                -66.4
2. ดุลบัญชีทุนและการเงิน (Capital & Financial Account Balance)             -443.3             -2,212.4
 2.1 ดุลบัญชีการเงิน (Financial Account Balance)                          -416.0             -2,186.9
     การลงทุนโดยตรง (Direct Investment)                                -849.2               -572.0
     การลงทุนในหลักทรัพย์ (Portfolio Investment)                         3,749.8             -5,297.6
     การลงทุนในตราสารอนุพันธ์ด้านการเงิน (Financial Derivatives)             309.2                123.1
     การลงทุนอื่นๆ (Other investments)                                 -3,625.7              3,559.7
 2.2 ดุลบัญชีทุน (Capital Account Balance)                                 -27.3                -25.5
3. ยอดเงินทุนสารองระหว่างประเทศสุทธิ (Changes in Reserve Assets)           -266.9               -2,579
ที่มา กระทรวงการคลังญี่ปุ่น


          สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลัง ณ กรุงโตเกียว

          ที่มา:  Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
          Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ