ปรับเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่แท้จริงของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2553

สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลัง ประจำกรุงวอชิงตัน ขอรายงานการแก้ไขตัวเลขมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่แท้จริงของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2553 จัดทำโดยสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจ (Bureau of Economic Analysis - BEA) ภายใต้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ดังนี้

สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ประกาศแก้ไขตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริง ประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2553 โดยปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 มาอยู่ที่ร้อยละ 2.6 โดยการแก้ไขตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่แท้จริงจากสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐฯ สรุปได้ดังนี้

                                      Advance       2nd Estimate    3rd Estimate
Real GDP                                2.0             2.5              2.6
Current-dollar GDP                      4.2             4.8              4.6
Gross Domestic Purchase Price Index     0.8             0.8              0.7
หน่วย: Percent change from preceding quarter
ที่มา: สานักวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐฯ (www.bea.gov)


          อนึ่ง การปรับเพิ่มขึ้นของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริง ประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2553 จากการคาดการณ์ครั้งที่ 3 ในเดือนธันวาคม 2553 เป็นผลมาจากปริมาณการนำเข้าที่ชะลอตัวลงอย่างมาก ตลอดจนปริมาณการลงทุนในสินค้าคงคลังภาคเอกชนและการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคที่ขยายตัวในอัตราที่สูงกว่าการคาดการณ์ครั้งก่อนในเดือนพฤศจิกายน อย่างไรก็ตามการปรับเพิ่มขึ้นดังกล่าวได้รับปัจจัยทางลบบางส่วนจากการปรับลดของปริมาณการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย ประกอบกับปริมาณการส่งออกและการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใช่เพื่อการอยู่อาศัยชะลอตัวลงกว่าที่คาดการณ์ไว้
          แม้ว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมที่แท้จริงของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 3 ได้ปรับตัวดีขึ้นจากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ร้อยละ 2.5 มาอยู่ที่ร้อยละ 2.6 ในการคาดการณ์ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมครั้งล่าสุดในเดือนธันวาคม 2553 แต่อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดังกล่าว ยังคงมีค่าต่ำกว่าระดับที่นักวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 2.8 (อ้างอิงจากสานักข่าว Bloomberg) ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า การขยายตัวของสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 3 ยังคงไม่เพียงพอต่อการก่อให้เกิดภาวะการสร้างงาน ตลอดจนยังแสดงความกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าระดับที่เหมาะสม หรือร้อยละ 2 ต่อปี โดยจากจากรายงานล่าสุดอัตราการว่างงานได้ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 9.8 ในเดือนพฤศจิกายน 2553 ในขณะที่ ดัชนีระดับราคาสินค้าและบริการที่ไม่รวมสินค้าอาหารและพลังงานขยายตัวที่อัตราร้อยละ 0.4 จากไตรมาสก่อนหน้า


          ที่มา:  Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
          Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th