มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเด็กเล็ก

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 7, 2011 09:58 —กระทรวงการคลัง

ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเด็กเล็กอันเป็นการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาแผนปฏิรูปประเทศไทย โดยให้ภาคธุรกิจเอกชนสามารถเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการภายใต้แผนปฏิรูประเทศไทยเพื่อสร้างความเป็นธรรมและแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยควบคู่ไปกับการเติบโตของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและขยายระบบสวัสดิการสังคมไปยังกลุ่มเด็กเล็กซึ่งเป็นอนาคตของชาติ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

1. กรณีสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กในสถานประกอบกิจการเพื่อเป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐานให้แก่ลูกจ้างโดยไม่ถือเป็นประโยชน์เพิ่ม

1.1 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถนำค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็กในสถานประกอบกิจการของบริษัทฯนั้น มาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ตามที่จ่ายจริง รวมทั้งให้หักได้เพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 1 ล้านบาท ทั้งนี้ สำหรับรายจ่ายที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้มีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558

1.2 ลูกจ้างไม่ต้องนำเงินได้จากการคำนวณเป็นมูลค่าที่ลูกจ้างได้รับสวัสดิการ จากการนำบุตรไปอยู่ในความดูแลของสถานรับเลี้ยงเด็กที่นายจ้างจัดให้มารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

2. บุคคลธรรมดา หรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีการบริจาคให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหรือสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สามารถนำรายจ่ายดังกล่าวมาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้ 2 เท่า แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษา ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้สุทธิ (กรณีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา) และหรือเมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายในการจัดสร้างและการบำรุงรักษา สนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ หรือสนามกีฬาฯ แล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา (กรณีภาษีเงินได้นิติบุคคล)

นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า “มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเด็กเล็กข้างต้น จะเป็นแรงกระตุ้นให้ภาคธุรกิจเอกชนได้จัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กในองค์กรตนเองมากขึ้นเพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่ลูกจ้าง อันจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ ยังจะเป็นการจูงใจให้ประชาชนทั่วไปและภาคธุรกิจเอกชนได้มีส่วนร่วมในการบริจาคให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเด็กเล็กซึ่งเป็นอนาคตของชาติอีกทางหนึ่งด้วย”

สำนักวิชาการแผนภาษี กรมสรรพากร

โทร. 0 2272 9479

--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 39/2554 5 เมษายน 54--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ