นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เผยฐานะการคลังของภาครัฐบาลตามระบบ สศค. (Government Finance Statistics : GFS) ในไตรมาสแรกขาดดุล ๑.๗ แสนล้านบาท
สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ ๒๕๕๔ (ตุลาคม — ธันวาคม ๒๕๕๓) ดุลการคลังภาครัฐบาล
(รัฐบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) ขาดดุลจำนวน ๑๖๙,๙๘๐ ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่
ขาดดุล ๑๑๓,๓๒๘ ล้านบาท ร้อยละ ๕๐.๐ เป็นผลจากภาครัฐบาลมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นโดยมีรายจ่ายรวมทั้งสิ้น ๗๗๘,๕๔๘ ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ๑๒๒,๘๓๒ ล้านบาท หรือร้อยละ ๑๘.๗ โดยเฉพาะการเบิกจ่ายของรัฐบาลจำนวน ๕๖๔,๓๒๑ ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ๑๒๐,๗๔๐ ล้านบาท
หรือร้อยละ ๒๗.๒ ในขณะที่รายได้ภาครัฐบาลมีจำนวน ๖๐๘,๘๗๑ ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน
ปีที่แล้ว ๖๖,๔๘๔ ล้านบาท หรือร้อยละ ๑๒.๒ จากการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น
นายนริศ ชัยสูตร สรุปว่า “การขาดดุลการคลังของภาครัฐบาลในไตรมาสแรกที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงเป็นผลจากการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายการดำเนินนโยบายการคลังของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 38/2554 4 เมษายน 54--