รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 11 เมษายน 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 11, 2011 14:24 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 11 เมษายน 2554

Summary:

1. น้ำมันโลกสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง

2. ปัจจัยลบกระทบความเชื่อมั่นอสังหาฯ

3. จีนขาดดุลการค้ารอบ 7 ปี เหตุต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้น

Highlight:
1. น้ำมันโลกสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดโลกพุ่งขึ้นแตะระดับ 112.91 ดอลลาร์ หรือสูงสุดตั้งแต่เดือนก.ย. 2551 เคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกันกับราคาน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบเดือนพ.ค. ที่อยู่ที่ระดับ 126.65 ดอลลาร์ พุ่งขึ้น 3.98 ดอลลาร์
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ราคาน้ำมันดิบมีการเร่งตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบที่ยังคงยืดเยื้อในภูมิภาคตะวันออกกลาง และการเลื่อนการเลือกตั้งในบางส่วนของประเทศไนจีเรียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก โดยการปรับขึ้นราคาน้ำมันจะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นตามไปด้วยและอาจส่งผลลบต่อการบริโภคภาคเอกชนและการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นยังส่งผลลบต่อสถานะกองทุนน้ำมันฯ โดยปัจจุบัน สถานะกองทุนน้ำมันฯ อยู่ที่ 11,206 ล้านบาท มีเงินไหลออกสุทธิ 375.75 ล้านบาทต่อวันเพื่อตรึงราคาน้ำมันไว้ ซึ่งหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงและดำเนินการใดๆ กองทุนน้ำมันจะอยู่ได้อีกประมาณ 30 วัน ณ เงินอุดหนุนน้ำมันฯ ที่ระดับ 5.90 บาทต่อลิตร
2. ปัจจัยลบกระทบความเชื่อมั่นอสังหาฯ
  • ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยไตรมาส 1 ปี 54 พบว่า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 51.2 ปรับลดลงจากไตรมาส 4 ปี 53 ที่อยู่ที่ระดับ 55.0 และลดลงมากจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ระดับ 59.0 โดยผู้ประกอบการที่จดทะเบียนในในตลาดหลักทรัพย์มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นลดลงทั้งในด้านยอดขาย การลงทุน ต้นทุนประกอบการ และการเปิดโครงการใหม่ และ/หรือ เฟสใหม่
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การที่ค่าดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันปรับลดลงจากไตรมาสที่แล้ว สะท้อนภาพภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มชะลอความร้อนแรงลงจากปี 53 ที่ GDP ภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 53 ขยายตัวร้อยละ 3.8 เร่งขึ้นจากปี 52 ที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 1.1 ประกอบกับอุปทานในตลาดมีสูงและรองรับอุปสงค์ได้ ทำให้มีการก่อสร้างใหม่น้อยลง สะท้อนจากยอดจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศ ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 54 ขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ในขณะที่ยอดจำหน่ายทั้งปี 53 ขยายตัวร้อยละ 4.6 ทั้งนี้ ต้นทุนประกอบการที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสะท้อนจากดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนปัจจัยลบอื่นๆ เช่น ความไม่แน่นอนทางการเมือง ภัยธรรมชาติ อาจกระทบต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ในระยะต่อไป
3. จีนขาดดุลการค้ารอบ 7 ปี เหตุต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้น
  • จีนขาดดุลการค้าในไตรมาสแรกปี 54 จำนวน 1,002 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการขาดดุลรายไตรมาสครั้งแรกในรอบ 7 ปี เนื่องจากมีมูลค่าการนำเข้าสูงกว่า 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นผลมาจากมีการนำเข้าอุปกรณ์ด้านเครื่องจักรกล รถยนต์ รวมไปถึงแร่เหล็กและถั่วเหลืองมากกว่าปีที่ผ่านมา และราคาสินค้านำเข้าที่สูงขึ้น ก็เป็นปัจจัยทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าสูงขึ้นด้วย
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ต้นทุนนำเข้าสินค้าเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นแรงกดดันให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งปัจจุบันจีนมีอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 4.9 และมีความพยายามใช้มาตรการต่างๆ ในการควบคุมเงินเฟ้อ เพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันการที่ราคาสินค้านำเข้าที่เป็นสินค้าวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้นจะทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าในจีนสูงขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันสำหรับสินค้าส่งออกของจีนได้

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ