การประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชีย ครั้งที่ 44 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 3-5 พฤษภาคม 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 10, 2011 08:48 —กระทรวงการคลัง

การประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชีย ครั้งที่ 44 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 3-5 พฤษภาคม 2554 ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยและผู้ว่าการสำรองของไทยในธนาคารพัฒนาเอเชีย ได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชีย ครั้งที่ 44 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ระหว่างวันที่ 3-5 พฤษภาคม 2554 โดยได้เข้าร่วมการประชุมต่างๆ ดังมีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้

1. พิธีเปิดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชีย ครั้งที่ 44

ในช่วงเช้าของวันที่ 5 พฤษภาคม 2554 ปลัดกระทรวงการคลังได้เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมฯ โดยมีนาย Nguyen Tan Dung นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามให้เกียรติเป็นผู้กล่าวเปิดการประชุม และนาย Haruhiko Kuroda ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB) โดยประธาน ADB ได้กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดสรุปได้ว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียในปัจจุบันมีการอัตราการเจริญเติบโตที่ดี ถึงแม้ได้รับผลกระทบจากการเกิดภัยพิบัติในประเทศญี่ปุ่น แต่ก็มองว่าเป็นผลกระทบระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งได้ประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียจะอยู่ในระดับร้อยละ 7.8 ในปี 2554 และร้อยละ 7.7 ในปี 2555 นอกจากนี้ ประธาน ADB ได้เน้นย้ำถึง 5 ด้านหลัก ที่ประเทศในภูมิภาคเอเชียควรให้ความสำคัญ ได้แก่ การแก้ปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจนส่งผลทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันทางรายได้ การมุ่งเน้นส่งเสริมให้เกิดระบบธรรมาภิบาลที่ดี การเพิ่มการลงทุนและปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ การพัฒนาระบบการเงินเพื่อให้ประชากรที่ยากจนเข้าถึงแหล่งการเงินได้ง่ายขึ้น และความร่วมมือภายในภูมิภาค

2. การประชุมโต๊ะกลมระหว่างผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชีย ครั้งที่ 2

ในช่วงบ่ายของวันที่ 5 พฤษภาคม 2554 ปลัดกระทรวงการคลังได้เข้าร่วมการประชุมโต๊ะกลมครั้งที่ 2 ระหว่างผู้ว่าการ ADB จาก 12 กลุ่มออกเสียงใน ADB ซึ่งประเทศไทยเข้าร่วมในฐานะตัวแทนของกลุ่มออกเสียงของไทย ประกอบด้วยสมาชิก 6 ประเทศ ได้แก่ บรูไน ดารุสซาลาม เนปาล มาเลเซีย พม่า สิงคโปร์ และไทย สาระสำคัญของการประชุมฯ สรุปได้ว่า เศรษฐกิจของเอเชียได้ฟื้นตัวดีเป็นลำดับ โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียจะขยายตัวสูงขึ้นถึงร้อยละ 7.8 ในปี 2554 เมื่อเทียบกับปี 2553 ที่อยู่ในระดับร้อยละ 7 อย่างไรก็ดี ที่ประชุมเห็นว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียยังคงเผชิญกับความเสี่ยงของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากความกดดันภาวะเงินเฟ้อและความผันผวนของการเคลื่อนย้ายเงินทุน ที่ประชุมเห็นว่า ความร่วมมือระหว่างประเทศในการกำหนดนโยบายแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันไม่ให้การดำเนินนโยบายของประเทศหนึ่งส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค สำหรับความกดดันภาวะเงินเฟ้อที่มาจากราคาอาหารที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น ปลัดกระทรวงการคลังได้เสนอให้ ADB พิจารณาจัดทำระบบระวังภัย (Surveillance System) เพื่อติดตามและเฝ้าระวังด้านอุปทานและการผลิตอาหารของโลก นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงการคลังได้หยิบยกประเด็นการใช้พลังงานทางเลือกซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเพื่อเป็นการทดแทนการใช้น้ำมันซึ่งมีราคาสูง โดย ADB ควรเข้ามามีบทบาทในการศึกษาแนวทางและการเข้าถึงเทคโนโลยีสำหรับการผลิตพลังงานทดแทนให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งเป็นประเทศที่มีความสามารถในการเข้าถึงเทคโนโลยีค่อนข้างต่ำ สำหรับประเด็นการบริหารจัดการความผันผวนของการเคลื่อนย้ายเงินทุน ปลัดกระทรวงการคลังเห็นว่า การกำหนดนโยบายด้านการเงินเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ โดยจะต้องมีการพิจารณากำหนดมาตรการควบคุมการเคลื่อนย้ายเงินทุนควบคู่ไปด้วย อย่างไรก็ดี ที่ประชุมเห็นว่า การไหลเข้าของเงินทุนจะสามารถส่งผลดีต่อภูมิภาคได้หากสามารถมีการบริหารจัดการให้เงินทุนที่ไหลเข้ามาเป็นการเข้ามาลงทุนระยะยาว

3. การประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชีย ครั้งที่ 44

ในช่วงเย็นของวันที่ 5 พฤษภาคม 2554 ปลัดกระทรวงการคลังได้เข้าร่วมการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชีย ครั้งที่ 44 ซึ่งประเทศไทยได้จัดส่งสุนทรพจน์โดยกล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันที่ยังคงมีความผันผวนที่เกิดจากวิกฤตเงินเฟ้อที่ส่งผลให้ราคาสินค้าสูงขึ้น สำหรับเศรษฐกิจในประเทศไทยมีอัตราการขยายตัวที่ดี ที่อยู่ระดับอัตราร้อยละ 7.8 เมื่อปี 2553 และคาดว่า ในปี 2554 จะมีอัตราการขยายตัวในระดับร้อยละ 4-5 นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับ ADB ในอนาคตที่ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ การพัฒนาตลาดทุน ตลอดจนการพัฒนาระบบการเงินฐานราก อีกทั้ง ได้กล่าวถึงความสำคัญของความร่วมมือภายในภูมิภาคโดยเฉพาะความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Great Mekong Sub-region : GMS) และความร่วมมือทางการเงินภายใต้ ASEAN และ ASEAN +3 ตลอดจนบทบาทของธนาคารพัฒนาเอเชียในการบริหารกองทุนพัฒนาเอเชีย (Asian Development Fund : ADF) เพื่อช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่มีการพัฒนาน้อยที่สุดให้มีพัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคมที่ดีขึ้น และหลุดพ้นจากความยากจน

สำนักนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

โทร. (02) 273-9020 ต่อ 3314 / โทรสาร. (02) 273-9110

--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 58/2554 9 พฤษภาคม 54--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ