Macro Morning Focus ประจำวันที่ 23 พฤษภาคม 2554
Summary:
1. หั่นเป้าการผลิตรถยนต์หวังปลายปีดีขึ้น
2. เม.ย. 54 ส่งออกโตร้อยละ 24.6 นำเข้าโตร้อยละ 27.9 ขาดดุล 797 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
3. คาด รายได้และการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐฯเดือนเม.ย. จะเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.4 และ 0.5
Highlight:
1. หั่นเป้าการผลิตรถยนต์หวังปลายปีดีขึ้น
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่า ยอดการผลิตรถยนต์เดือนเม.ย. 54 อยู่ที่ 89,179 คัน ลดลงจากเดือนมี.ค. 54 ที่ผลิต 172,004 คัน หดตัวร้อยละ 48.15 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เนื่องจากผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิในญี่ปุ่น ทำให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศญี่ปุ่นไม่สามารถผลิตชิ้นส่วนบางชนิดส่งให้ค่ายรถยนต์ที่เป็นบริษัทลูกทั่วโลกและประเทศไทยได้มากนัก ทำให้ค่ายรถยนต์ต้องลดกำลังการผลิตลง ทั้งนี้ สอท. เตรียมปรับเป้าการผลิตรถยนต์ทั้งปี 54 ลงเหลือ 1.67 ล้านคัน จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 1.8 ล้านคัน ลดลง 10% ทำให้กำลังการผลิตรถยนต์หายไป 1.8 แสนคัน หรือคิดเป็นมูลค่าการผลิตที่หายไปประมาณ 7-8 หมื่นล้านบาท แต่คาดว่าช่วงเดือนก.ค. นี้ จะสามารถกลับมาผลิตได้เต็มที่เหมือนเดิม
- สศค. วิเคราะห์ว่า ภัยพิบัติสึนามิที่ญี่ปุ่นได้ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานด้านการผลิตรถยนต์ทั่วโลกและประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ยอดการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยในช่วง 4 เดือนแรกของปี 54 ผลิตได้ 558,160 คัน ซึ่งยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าช่วง 4 เดือนแรกของปี 53 ที่ผลิตได้ 487,951 คัน ขยายตัวร้อยละ 14.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากการผลิตที่ขยายตัวอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 54 ผลิตได้ถึง 468,981 คัน สูงกว่าไตรมาสที่ 1 ปี 53 ผลิตได้ 382,841 คัน ขยายตัวร้อยละ 22.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ทั้งนี้ หากญี่ปุ่นสามารถฟื้นตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็วจะส่งผลให้การผลิตรถยนต์ในประเทศไทยกลับมาผลิตได้เต็มกำลังอีกครั้ง นอกจากนี้ อุปสงค์ตลาดรถยนต์ในประเทศยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ให้สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
2. เม.ย. 54 ส่งออกโตร้อยละ 24.6 นำเข้าโตร้อยละ 27.9 ขาดดุล 797 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- กระทรวงพาณิชย์ เผยเดือน เม.ย.54 การส่งออกมีมูลค่า 17,564 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นในทุกหมวดสินค้า ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 18,361 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นการขยายตัวในทุกหมวดเช่นกัน ส่งผลให้ขาดดุลการค้าจำนวน 797 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- สศค.วิเคราะว่า มูลค่าการส่งออกของไทยยังขยายตัวได้ในระดับสูง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจคู่ค้า โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียที่ยังคงขยายตัวได้ในระดับสูง ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐก็ยังคงขยายได้ต่อเนื่อง ทั่งนี้ ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 54 มูลค่าการส่งออกขยายตัวในอัตราเร่งที่ร้อยละ 27.4 เมื่อเที่ยบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้คาดว่า ทั้งปี 54 มูลค่าการส่งออกสินค้าจะขยายตัวร้อยละ 14.3
3. คาด รายได้และการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐฯเดือนเม.ย. จะเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.4 และ 0.5
- ธนาคารแห่งประเ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาดวอลล์สตรีทคาดว่า ในเดือนเม.ย.54 ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐฯจะเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.5 ซี่งเป็นการปรับตัวขึ้นในอัตราส่วนน้อยที่สุดในรอบ 3 เดือน ส่วนรายได้ของชาวสหรัฐฯจะเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.4 ชะลอลงจากเดือนก่อนที่อยู่ที่ร้อยละ 0.5
- สศค. วิเคราะห์ว่า ราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาอาหารและเชื้อเพลิงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการบริโภคภาคเอกชนของสหรัฐฯ โดยราคาเชื้อเพลิงเบนซินโดยเฉลี่ยในเดือนเม.ย. จากสมาคมยานยนต์แห่งสหรัฐฯ (AAA) อยู่ที่ระดับ 3.81 ดอลลาร์ต่อแกลลอน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วที่ระดับ 3.54 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ทำให้ไตรมาสแรกปี 54 เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวเพียงร้อยละ 2.3 ทั้งนี้ สศค.คาดว่า เศรษฐกิจของประเทศสหรัฐฯ จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 2.9 (ณ เดือนมี.ค. 54) อย่างไรก็ตาม สศค.จะมีการปรับประมาณการในเดือนมิ.ย. 54 นี้
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:
Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th