รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 28 มิถุนายน 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 28, 2011 12:01 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 28 มิถุนายน 2554

Summary:

1. สมาคมท่องเที่ยวเชื่อไทยถอนตัวภาคีมรดกโลกไม่กระทบเมืองท่องเที่ยว

2. บางจากคาดราคาน้ำมันขายปลีกปรับตัวลดลง

3. จีนคาดว่าจะสามารถรักษาอัตราเงินเฟ้อปี 54 ให้ต่ำกว่าร้อยละ 5

Highlight:
1. สมาคมท่องเที่ยวเชื่อไทยถอนตัวภาคีมรดกโลกไม่กระทบเมืองท่องเที่ยว
  • นายอิทธิพันธ์ ขาวละมัย ประชาสัมพันธ์สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จังหวัดระนครศรีอยุธยา กล่าวถึง กรณีประเทศไทยประกาศถอนตัวจากภาคีมรดกโลกว่าไม่กระทบเมืองท่องเที่ยวอย่างมรดกโลกอยุธยา และยังเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดในฐานะเมืองมรดกโลกและการท่องเที่ยวของไทย
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การที่ประเทศไทยได้ถอนตัวออกจากภาคีมรดกโลกจะไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของไทย เพราะว่าเชื่อว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีจุดขายด้านการท่องเที่ยวที่สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยว โดยในช่วง ม.ค. — พ.ค. 54 นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศมีจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 8.20 ล้านคน คิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 24.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 53 ซึ่งจะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในปี 54 จากเม็ดเงินของการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งนี้ สศค.คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยในปี 54 ไม่ต่ำกว่า 19 ล้านคน หรือขยายตัวร้อยละ 22.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
2. บางจากคาดราคาน้ำมันขายปลีกปรับตัวลดลง
  • บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินในสัปดาห์นี้มีทิศทางปรับดลง หลังจากราคาในตลาดโลกปรับลดลงต่อเนื่อง เพราะมีความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ประกอบกับสหรัฐฯ จะเพิ่มน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์มาใช้เดือนหน้า จึงเป็นแรงกดดันให้แนวโน้มราคาน้ำมันดิบจะลดลงต่อเนื่อง ในขณะที่ บมจ.ปตท.ประกาศปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลงอีกลิตรละ 40 สตางค์ ส่วน E85 ลดลงลิตรละ 20 สตางค์ โดยมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น. วันที่ 28 มิ.ย. 54 เป็นต้นไป
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความกังวลของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงฟื้นตัวอย่างเปราะบาง โดยเฉพาะสหภาพยุโรปยังคงประสบปัญหาสาธารณะ ส่วนสหรัฐฯมีปัญหาการว่างงานในระดับสูง จากสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวลดลงด้วย ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยผ่านการช่วยลดแรงกดดันด้านอัตราเงินเฟ้อ และต้นทุนการผลิต ไม่ให้เพิ่มมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 54 ทั้งนี้ ในช่วง 5 เดือนแรก ปี 54 อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 3.5 และ สศค.คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 54 จะอยูที่ร้อยละ 3.1- 4.1 ต่อปี (คาดการณ์ ณ มี.ค.54) อย่างไรก็ตาม สศค.จะมีการปรับประมาณการอีกครั้ง ณ วันที่ 29 มิ.ย.54 นี้
3. จีนคาดว่าจะสามารถรักษาอัตราเงินเฟ้อปี 54 ให้ต่ำกว่าร้อยละ 5
  • นายกรัฐมนตรีจีน นายเวิน เจียเป่า ระบุว่าจีนอาจรักษาอัตราเงินเฟ้อให้ไม่เกินร้อยละ 5 ได้ด้วยมาตรการคุมเงินเฟ้อทั้งหมดที่ออกมา พร้อมยืนยันว่าการพุ่งสูงของราคาจะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี 54 หลังจากเพิ่มขึ้นในอัตราเร็วสุงสุดในช่วงเกือบ 3 ปี ทั้งนี้ บลูมเบิร์กรายงานคำกล่าวของนายกฯ เวินโดยยอมรับว่า "เป็นเรื่องยากที่จะทำตามเป้าหมายเงินเฟ้อทั้งปีที่ร้อยละ 4" ซึ่งคำกล่าวของ เวิน ส่งสัญญาณว่า รัฐบาลเชื่อมั่นว่าแรงกดดันต่อเงินเฟ้อจะผ่อนคลายลงหลังจากพุ่งแตะระดับร้อยละ 5.5 ในเดือนที่แล้วซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงสุดนับจาก ก.ค. 51
  • สศค.วิเคราะห์ว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของจีน ณ พ.ค. 54 อยู่ที่ร้อยละ 5.5 จากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ร้อยละ 5.3 ส่งผลให้นับจากต้นปี 54 เป็นต้นมา (YTD) อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 5.2 ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจีนได้ออกชุดมาตรการับมือเงินเฟ้อ ด้วยการสั่งการแบงก์พาณิชย์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั้งเงินฝากและเงินกู้ (1ปี) โดยปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 3.25 และ 6.21 ต่อปี ตามลำดับ และควบคุมการปล่อยสินเชื่อ อย่างไรก็ดี การควบคุมให้อัตราเงินเฟ้อทั้งปีอยู่ภายในร้อยละ 5 นับเป็นเรื่องที่ท้าย เนื่องจากจีนและฮ่องกงยังคงต้องเผชิญปัจจัยกดดันจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ และแนวโน้มราคาอาหารและสินโภคภัณฑ์ที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ