ไตรมาสที่ 1 ปี 2554 (ม.ค. 54 — มี.ค. 54) ดุลบัญชีเงินทุนเกินดุล 239 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 6,795 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ดุลการชำระเงินเกินดุล 7,324 ล้านดอลลาร์สหรัฐ1 ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จะพบว่าดุลการชำระเงินและดุลบัญชีเงินทุนปรับตัวลดลง สำหรับสาเหตุสำคัญของการที่ดุลการชำระเงินและดุลบัญชีเงินทุนปรับตัวลดลง เนื่องจากมูลค่าการลงทุนโดยตรงปรับตัวลดลงอย่างมาก
คาดว่าไตรมาสที่ 2 ปี 2554 (เม.ย.54-มิ.ย.54) ดุลบัญชีเงินทุนเกินดุล 1,260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1 ของปี 2554 โดยสาเหตุสำคัญมาจากการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1 ซึ่งมีระดับต่ำผิดปกติ ขณะเดียวกันการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของไทยอยู่ในระดับที่ลดลงจากไตรมาสที่ 1
ดุลบัญชีเงินทุนเกินดุล 239 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 6,795 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ดุลการชำระเงินเกินดุล 7,324 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับสาเหตุสำคัญหลักของการเกินดุลบัญชีเงินทุนเกิดจากการนักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อตราสารทุนและตราสารหนี้ในระดับสูงขณะที่การลงทุนอื่น ๆ ปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า รวมทั้งการลงทุนการลงโดยตรงจากต่างประเทศที่ปรับตัวลดลงอย่างมากจากไตรมาสก่อนหน้า
การลงทุนโดยตรงสุทธิมีเงินทุนไหลออก 4,853 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเงินทุนไหลเข้า 828 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การลงทุนใน
หลักทรัพย์สุทธิมีเงินทุนไหลเข้า 4,149 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 30.4 สำหรับการลงทุนอื่น ๆ สุทธิมีเงินทุนไหลเข้า 943 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเงินทุนไหลออก 232 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
1.1 สถานการณ์การลงทุนโดยตรง ไตรมาส 1 ปี 2554
การลงทุนโดยตรงสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2554 มีมูลค่าติดลบถึง 4,853 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศมีมูลค่า 4,810 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมีเงินทุนไหลออกเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 600 จากช่วงเวลาเดียวกัน ของปีก่อนหน้า สำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีมูลค่าติดตล 43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็นการถอนการลงทุน และนับเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี
1.2 สถานการณ์การลงทุนในหลักทรัพย์ไตรมาส 1 ปี 2554
การลงทุนในหลักทรัพย์สุทธิไตรมาสที่ 1 ปี 2554 มีเงินทุนไหลเข้ามูลค่า 4,149 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.30 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีเงินทุนไหลออกมูลค่า 3,182 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
การลงทุนในหลักทรัพย์ในต่างประเทศมีเงินทุนไหลออก (การซื้อหลักทรัพย์ที่ลงทุนในต่างประเทศของนักลงทุนไทย) มูลค่า 730 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับการลงทุนในหลักทรัพย์จากต่างประเทศมีเงินทุนไหลเข้ามูลค่า 3,419 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 60
การลงทุนในตราสารทุนจากต่างประเทศมีเงินทุนไหลเข้ามูลค่า 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับการลงทุนในตราสารหนี้จากต่างประเทศนั้น มีเงินทุนไหลเข้า 3,344 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และสูงสุดในรอบ 18 ปี
จากข้อมูลตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า การซื้อขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในไตรมาสที่ 1 ปี 2554 มีมูลค่าการขายสุทธิ 577 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุที่มีการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติลดลงนั้น เป็นผลมาจากปัญหาทางการเมือง และจากการที่ความเสี่ยงในตลาดการเงินโลกสูงขึ้น ทำให้นักลงทุนมีการลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง
ขณะเดียวกันการลงทุนในตราสารทุนจากต่างประเทศจากข้อมูลของ ธปท. ก็ปรับตัวลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าเช่นกัน ซึ่งในไตรมาส ที่ 1 ปี 2554 มีมูลค่า 75 ล้านบาท
1.3 สถานการณ์การลงทุนอื่น ๆ ไตรมาส 1 ปี 2554
การลงทุนอื่น ๆ สุทธิไตรมาสที่ 1 ปี 2554 มีเงินทุนไหลเข้า 943 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 306 แต่ทั้งนี้เมื่อพิจารณาในรายละเอียดจะพบว่า การลงทุนอื่น ๆ ของชาวต่างประเทศในประเทศไทยนั้นได้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งในไตรมาสที่ 1 ปี 2554 มีมูลค่าถึง 943 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่การลงทุนอื่น ๆ ของชาวไทยในต่างประเทศก็เพิ่มเป็นจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งมูลค่าการลงทุนในไตรมาสที่ 1 ปี 2553 มีมูลค่าติดลบ 3,486 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
การลงทุนอื่น ๆ ของชาวต่างชาติในประเทศไทยนั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการให้สินเชื่อของชาวต่างประเทศ ซึ่งมีมูลค่า 3,360 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2554
คาดว่าไตรมาสที่ 2 ปี 2554 ดุลการชำระเงินเกินดุล 2,760 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และดุลบัญชีเงินทุนเกินดุลอยู่ที่ 1,260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 14.8 และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2554 ร้อยละ 427.2 ซึ่งมีสาเหตุสำคัญมาจากการลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นมากจากไตรมาส 1 ปี 2554 ขณะที่การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของไทยลดต่ำลงจากกไตรมาสที่ 1 ที่มีตัวเลขสูงผิดปกติ
การลงทุนโดยตรงสุทธิมีเงินทุนไหลออก 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเงินทุนไหลเข้า 1,269 ล้านเหรียญสหรัฐ การลงทุนในหลักทรัพย์สุทธิมีเงินทุนไหลเข้า 1,260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเงินทุนไหลออก 1,013 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการลงทุนอื่น ๆ สุทธิมีเงินทุนไหลเข้า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 18.9
คาดว่าการลงทุนโดยตรงสุทธิไตรมาสที่ 2 ปี 2554 มีการไหลออกของเงินทุนมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเปลี่ยนจากเงินทุนไหลเข้าในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับมูลค่าการออกบัตรส่งเสริมการลงทุนของ BOI ที่มีการปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยการลงทุนโดยตรงสุทธิที่ลดลงนั้นเป็นผลมาจากการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศเพิ่มขึ้น ขณะที่การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของคนไทยลดลงจากไตรมาสที่ 1 ปี 2554
คาดว่าการลงทุนในตราสารทุนของชาวต่างชาติในไตรมาสที่ 2 ปี 2554 จะมีมูลค่าเงินทุนไหลออก 240 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากข้อมูลการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหลักทรัพย์ในระดับสูง
สำหรับการลงทุนอื่น ๆ คาดว่ามีการไหลเข้าประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.9 เข้าเก็งกำไรส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th