Macro Morning Focus ประจำวันที่ 21 กรกฎาคม 2554
Summary:
1. ส.อ.ท.เผยดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม มิ.ย.อยู่ที่ระดับ 107.4 จาก 108.3 ในเดือนพ.ค. 54
2. ยอดส่งออกรถยนต์เดือน มิ.ย. 54 อยู่ที่ 61,156 คัน ลดลง 11.73%
3. ยอดการสร้างบ้านใหม่ในสหรัฐในเดือน มิ.ย. 54 ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.6
Highlight:
1. ส.อ.ท.เผยดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม มิ.ย.อยู่ที่ระดับ 107.4 จาก 108.3 ในเดือน พ.ค. 54
- ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนมิ.ย.54 ได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 107.4 จากระดับ 108.3 ในเดือนพ.ค. โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อการปรับลดลงของค่าดัชนี ได้แก่ ภาวะน้ำท่วมหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ, ความกังวลเกี่ยวกับการเมืองภายในประเทศและสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ขณะที่ต้นทุนการผลิตยังปรับตัวสูงขึ้น
- สศค. วิเคราะห์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน มิ.ย. 54 ที่มีการปรับตัวลดลงนั้น ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจาก มาตรการปรับเพิ่มขึ้นค่าแรงงานเป็น 300 บาทที่จะส่งผลต่อต้นทุนการผลิตในภาคอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ในช่วง 5 เดือนแรกผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกยังคงขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะหนังสือและสิ่งพิมพ์ และเม็ดพลาสติกที่ขยายตัวร้อยละ 198.47 และ 59.98 ตามลำดับ นอกจากนี้การผลิตเพื่อบริโภคภายในประเทศคาดว่าจะยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากราคาสินค้าเกษตรและการจ้างงานที่ยังคงขยายตัวได้ดี
2. ยอดส่งออกรถยนต์เดือน มิ.ย. 54 อยู่ที่ 61,156 คัน ลดลง 11.73%
- โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)เผยยอดส่งออกรถยนต์ในเดือน มิ.ย. 54 อยู่ที่ 61,156 คัน ลดลงจากเดือน มิ.ย. 53 ร้อยละ11 .73 แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 58.21 เมื่อเทียบกับเดือน พ.ค. 54 ขณะที่จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตในเดือน มิ.ย. 54 มีทั้งสิ้น 153,546 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิ.ย. 53 ร้อยละ 3.14 และเพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ค. 54 ร้อยละ 55.4 เนื่องจากทุกบริษัทเร่งกำลังการผลิตขึ้น เพื่อชดเชยช่วงเวลาที่ไม่สามารถผลิตได้ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวและ สึนามิ โดยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากได้รับชิ้นส่วนจากบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น ทั้งนี้คาดว่าปี 54 ทั้งปีจะผลิตรถยนต์ได้ 1.8 ล้านคันตามเป้าเดิม หลังจากเดือน มิ.ย. 54 เริ่มผลิตรถยนต์ได้ตามปกติ
- สศค. วิเคราะห์ว่า ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่ง ในเดือนมิ.ย. 54 คาดว่าจะยังคงหดตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในเดือน พ.ค. 54หดตัวร้อยละ -15.2 ผลจากเหตุการณ์สึนามิในประเทศญี่ปุ่น ทำให้ขาดแคลนชิ้นส่วนในการผลิตและประกอบรถยนต์ ซึ่งส่งผลต่อบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไม่สามารถผลิตรถยนต์ได้เต็มกำลังการผลิต โดยช่วง เม.ย.-พ.ค. 54 มีอัตราการใช้กำลังการผลิตเพียงร้อยละ 49.3 ลดลงจากร้อยละ 83.9 ในไตรมาสแรก อย่างไรก็ตาม คาดว่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จะสามารถผลิตรถยนต์ได้เป็นปกติได้ในเดือน ก.ค.54 เป็นต้นไป เนื่องจากมีสัญญาณที่เป็นบวก ทั้งการเปิดโรงงานผลิตใหม่ของ 3 ค่ายรถยนต์ (มิตซูบิชิ ฟอร์ด และซูซูกิ) และความต้องการแรงงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ เพิ่มขึ้นกว่า 10,000 ตำแหน่ง เพื่อเร่งเดินหน้าทำการผลิต
3. ยอดการสร้างบ้านใหม่ในสหรัฐในเดือน มิ.ย. 54 ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.6
- กระทรวงพาณิชย์ รายงานว่า ตลาดที่อยู่อาศัยเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัว หลังยอดการสร้างบ้านใหม่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.6 ส่งผลให้อัตรารายปีขยับเพิ่มมาอยู่ที่ 629,000 หลัง ถือว่าดีกว่าภาพรวมที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ทั้งนี้ ภาคการก่อสร้างในสหรัฐประสบภาวะซบเซามานาน นับตั้งแต่เกิดฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์เมื่อปี 2549 และเศรษฐกิจโลกถดถอยช่วงปี 51-52
- สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น สะท้อนได้จาก GDP ในไตรมาสแรกของปี 54 ขยายตัวร้อยละ 2.3 อัตราเงินเฟ้อในเดือนพ.ค. 54 ขยายตัวร้อยละ 3.6 ทั้งนี้ การอนุญาตก่อสร้างเดือนมิ.ย. 54 ขยายตัว 6.7 ส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืน (19 ก.ค. 54) ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 200 จุด เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มภาคอสังหาริมทรัพย์อาจจะฟื้นตัวขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยจากปัญหาวิฤติฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์เมื่อปี 49 อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานในสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในสถานการณ์น่ากังวล โดยอัตราการว่างงานอยู่ที่ระดับร้อละ 9.2 ของกำลังแรงงานรวมทั้งประเทศ ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจของสหรัฐในปี 54 จะขยายตัวได้ร้อยละ 2.3 (คาดการณ์ ณ เดือน มิ.ย. 54 )และจะกลับมาเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐได้อีกครั้ง
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:
Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th