รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 24 สิงหาคม 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 24, 2011 11:18 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 24 สิงหาคม 2554

Summary:

1. ประสารเชื่อเศรษฐกิจไทยปีนี้โตร้อยละ 4.1

2. บีโอไอคาดงาน BOI Fair 2011 ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งทางตรง และทางอ้อม

3. ยอดส่งออกของอินโดนีเซียไปยังกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

Highlight:
1. ประสารเชื่อเศรษฐกิจไทยปีนี้โตร้อยละ 4.1
  • ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังยังมีแรงส่งต่อเนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรก ทำให้ในภาพรวมการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้ ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งคาดว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ร้อยละ 4.1 ในปีนี้ และขยายตัวได้ร้อยละ 4.2 ในปีหน้า ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่ถือว่าใกล้ระดับเต็มศักยภาพแล้ว เห็นจากตลาดแรงงานที่ตึงตัว และมีแรงกดดันต่อต้นทุนและราคาอย่างต่อเนื่อง
  • สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 54 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 4.5 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.0 - 5.0 (คาดการณ์ ณ เดือนมิ.ย. 54) โดยครึ่งแรกของปี54 เศรษฐกิจไทยขยายตัวที่ร้อยละ 2.9 ชะลอลงจากครึ่งแรกของปี 53 ที่ขยายตัวร้อยละ 10.7 เป็นผลมาจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักเช่น สหรัฐฯและยุโรปมีการชะลอตัวลง ซึ่งอาจทำให้ยอดคำสั่งซื้อจากต่างประเทศลดลง โดยสัดส่วนของมูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยปี 53 อยู่ที่ร้อยละ 56.9 ประกอบกับเสถียรภาพภายในประเทศที่มีอัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้ สศค.จะมีการปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยปี 54 อีกครั้งในเดือน ก.ย.54 จากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่มีการชะลอลง
2. บีโอไอคาดงาน BOI Fair 2011ช่วยกระตุ้นศก.ทั้งทางตรง-ทางอ้อม
  • เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) กล่าวถึงงานนิทรรศการ BOI Fair 2011 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-25 พ.ย.54 โดยคาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจทั้งทางตรง และทางอ้อม โดยทางตรงจะมีเงินสะพัดกว่า 7,000 ล้านบาท ส่วนทางอ้อมจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ ตลอดจนเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลต่อการขยายตัวของการลงทุน การท่องเที่ยว การค้า การส่งออก และช่วยปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
  • สศค. วิเคราะห์ว่า สถานการณ์การลงทุนในประเทศขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดการลงทุนในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา(ม.ค.—ก.ค. 54)มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 1,030 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 299.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 747 โครงการหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.9 ขณะที่มูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 45.5 โดยมีการลงทุนทั้งในส่วนของโครงการขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ซึ่งมีการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) มีจำนวน 599 โครงการ มีมูลค่าลงทุนจำนวน 205.8 พันล้านบาท ทั้งนี้ ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เข้ามาลงทุนในไทยสูงสุด มีจำนวน 312 โครงการ มีเงินลงทุนจำนวน 97.34 พันล้านบาท รองลงมาประเทศจีน สิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลีใต้และไต้หวัน ตามลำดับ สอดคล้องกับการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวร้อยละ 8.6 ในไตรมาสที่ 2 ปี 54
3. ยอดส่งออกของอินโดนีเซียไปยังกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
  • ธนาคารกลางอินโดนีเซีย รายงานว่า ยอดส่งออกของอินโดนีเซียไปยังกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดส่งออกไปยังจีนได้ร้อยละ 10.3 ส่งออกไปยังอินเดียเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 และส่งออกไปยังไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3 ในขณะที่ยอดส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าเก่าปรับตัวลดลงอยุ่ที่ร้อยละ 8.6 และ 10.7 ตามลำดับ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า อินโดนีเซียได้ขยายตลาดส่งออกที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก โดยการขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศในแถบเอเชียที่เป็นประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่มีการขยายตัวที่แข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น เพื่อทดแทนกับการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปที่มีอัตราการขยายตัวลดลงจากสัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยล่าสุด มูลค่าการส่งออกสินค้าของอินโดนีเซียเดือน มิ.ย. 54 สามารถขยายตัวสูงสุดในรอบ 16 เดือน ที่ร้อยละ 49.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ร้อยละ 45.3 โดยมาจากการส่งออกน้ำมันปาล์มและก๊าซธรรมชาติเป็นสำคัญ ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าสินค้าขยายตัวชะลอลงอยู่ที่ร้อยละ 28.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุลที่ 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ สศค. คาดว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียในปี 54 จะสามารถเติบโตได้ที่ร้อยละ 6.3 (คาดการณ์ ณ เดือน มิ.ย.54)

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ