รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 15 กันยายน 2554

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 15 กันยายน 2554

1. กิตติรัตน์ ตั้งเป้าส่งออกปี 55 โต ร้อยละ 15

2. ADB ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจเศรษฐกิจไทยปี 54 เหลือร้อยละ 4.0

3. อัตราเงินเฟ้ออินเดียเดือน ส.ค. 54 ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 9.78 สูงสุดในรอบ 13 เดือน

• นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ตั้งเป้าหมายการส่งออกในปี 55 ไว้ว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีนี้ ร้อยละ 15 โดยเชื่อมั่นว่าเป้าหมายดังกล่าวจะมีความเป็นไปได้ ขณะที่ในปีนี้ กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายการส่งออกไว้ที่ ร้อยละ 15 คิดเป็นมูลค่าการส่งออกประมาณ 224,000 ล้านดอลลาร์

• สศค. วิเคราะห์ว่า สถานการณ์การส่งออกของไทยยังขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง สะท้อนจากมูลค่าการส่งออกเดือน ก.ค. 54 อยู่ที่ 21.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 38.3 ตลาดที่ส่งออกหลัก ได้แก่ จีน กลุ่มอาเซียน+5 และสหภาพยุโรป มีสัดส่วนรวมกันที่ร้อยละ 37.2 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของไทย โดยสินค้าส่งออกที่ขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ สินค้าหมวดเกษตรกรรม อุตสาหกรรมเกษตร และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ที่ขยายตัวร้อยละ 58.1 40.4 และ 15.6 ตามลำดับ ทั้งนี้ สศค. คาดว่าการส่งออกของไทยจะขยายตัวได้ดีในช่วงครึ่งปีหลังตามที่คาดการณ์ โดยคาดการณ์ทั้งปี 54 ที่ร้อยละ 16.6-18.6 (คาดการณ์ ณ เดือน มิ.ย. 54) และจะมีการปรับประมาณการอีกครั้งในเดือน ก.ย. 54

• นางลัษมณ อรรถาพิช เศรษฐกรประจำประเทศไทย ธนาคารพัฒนาเอเซีย (ADB) กล่าวว่า ADB ได้มีการปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจประเทศไทยปี 54 ลงร้อยละ 4.0 จากเดิมที่เคยคาดไว้ร้อยละ 4.5 ในขณะที่ปี 55 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 4.5 จากเดิมที่คาดไว้ที่ร้อยละ 4.8 เนื่องจากเศรษฐกิจกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมหลักและคู่ค้าของไทยเริ่มเติบโตช้าลง รวมถึงมีปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิต โดยเฉพาะภาคการเกษตร

• สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังคาดว่าจะขยายตัวได้สูงกว่าครึ่งปีแรก และจะส่งผลให้ทั้งปี 54 เศรษฐกิจไทยจะปรับเข้าสู่การขยายตัวในระดับปกติ จากปีก่อนหน้าที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวในอัตราที่สูง โดยการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้จะได้รับแรงขับเคลื่อนหลักทั้งจากอุปสงค์ภายในประเทศและอุปสงค์ภายนอกประเทศ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวต่อเนื่องตามรายได้เกษตรกรที่อยู่ในเกณฑ์ดี และอัตราการว่างงานอยู่ระดับต่ำ (โดยรายได้เกษตรกรที่แท้จริงและอัตราการว่างงานในช่วง 7 เดือนของปี 54 อยู่ที่ร้อยละ 23.2 และร้อยละ 0.7 ของกำลังแรงงานรวม) ประกอบกับมูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการที่ยังคงขยายตัวในเกณฑ์ดีตามการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าในแถบเอเชียและตลาดเกิดใหม่ (โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการ 7 เดือนแรกของปี 54 ขยายตัวร้อยละ 25.7)อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังปี 54 เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และภัยพิบัติ ทั้งนี้ สศค. ดาดว่าเศรษฐกิจไทยทั้งปี 54 จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 4.5 (คาดการณ์ ณ มิ.ย.54) และจะปรับประมาณการอีกครั้งในวันที่ 28 ก.ย. 54 นี้

• สำนักข่าวบลูมเบิร์ก เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้ออินเดียเดือน ส.ค. 54 เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องสูงสุดในรอบ 13 เดือนขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 9.78 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของราคาทุกหมวดสินค้า (สินค้าภาคอุตสาหกรรม อาหาร เชื้อเพลิงและพลังงาน และสินค้าวัตถุดิบ) เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะสินค้าภาคอุตสาหกรรมซึ่งมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 64.97 ของราคาสินค้าทั้งหมดและมีราคาสูงขึ้นร้อยละ 0.4 จากเดือนก่อนหน้า

• สศค. วิเคราะห์ว่า จากอัตราเงินเฟ้อของอินเดียที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาสินค้าต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น (Cost Push) จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม จากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจะเป็นแรงกดดันให้ธนาคารกลางของอินเดียดำเนินนโยบายการเงินแบบรัดกุมต่อเนื่อง ทั้งนี้ สศค. คาดว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอินเดียในปี 54 จะขยายตัวร้อยละ8.5ต่อปี (คาดการณ์ ณ เดือน มิ.ย.54) และจะมีการปรับประมาณการอีกครั้งในเดือน ก.ย.54

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th