Macro Morning Focus ประจำวันที่ 16 กันยายน 2554
Summary:
1. คลังแถลงภาษีรถคันแรกสรรพสามิตคืนตรง
2. กระทรวงพาณิชย์เร่งเตรียมความพร้อมโครงการรับจานาข้าว
3. ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เดือน ส.ค. 54 ขยายตัวร้อยละ 0.0 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
Highlight
1. คลังแถลงภาษีรถคันแรกสรรพสามิตคืนตรง
- รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รูปแบบการคืนภาษีรถยนต์คันแรกให้กับผู้ซื้อนั้น กระทรวงการคลังจะยึดตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2554 ที่ให้คืนภาษีสรรพสามิตโดยตรงให้กับผู้ซื้อรถ โดยไม่ต้องเข้าแบบฟอร์มยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยกระทรวงการคลังจะคืนเงินให้เป็นเช็คไม่เกิน 100,000 บาท แต่ผู้ซื้อต้องมีคุณสมบัติตามที่กาหนด เช่น อายุไม่ต่ากว่า 21 ปี ไม่เคยเป็นเจ้าของรถมาก่อน ห้ามเปลี่ยนมือภายใน 5 ปี ขนาดของเครื่องยนต์ไม่เกิน 1500 ซีซี ราคาไม่เกิน 1,000,000 บาท และเป็นรถยนต์นั่ง รถกระบะ กระบะดับเบิลแค็บ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรถยนต์มือสอง ยังไม่รวมเข้าโครงการนี้
- สศค. วิเคราะห์ว่า การคืนภาษีรถยนต์คันแรกจะส่งผลให้ยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์กระบะ รถยนต์นั่งขนาดเครื่องยนต์เล็ก และรถยนต์อีโคคาร์ที่มีราคาขายและขนาดเครื่องยนต์เป็นไปตามเงื่อนไขของภาครัฐ ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาคการผลิตและการจ้างงานของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีนี้และปีหน้า และอาจส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนที่แท้จริงของทั้งปี 2554 ขยายตัวมากกว่าที่ สศค. คาดการณ์ว่าที่ร้อยละ 9.6 หรือช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 8.6 - 10.6 (คาดการณ์ ณ มิ.ย.2554)
2. กระทรวงพาณิชย์เร่งเตรียมความพร้อมโครงการรับจานาข้าว
- กระทรวงพาณิชย์เร่งเตรียมความพร้อมโครงการรับจานาข้าวซึ่งจะมีผลในวันที่ 7 ต.ค. 54 นี้ ทั้งในด้านการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงค้างในโรงจัดเก็บของรัฐบาล และการเตรียมงบประมาณ 9 หมื่นล้านบาทเพื่อใช้ในการรับจานาในช่วงเดือน ต.ค. 54 ถึง ธ.ค. 54 ส่วน งบประมาณที่เหลืออีกประมาณ 3.1 แสนล้านบาท รัฐบาลวางแผนใช้วิธีการกู้เงินร่วมจากธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ และจะมีการชาระบัญชีแบบปีต่อปีหลังจากที่รัฐบาลปิดโครงการเพื่อลดภาระของธนาคาร
- สศค. วิเคราะห์ว่า โครงการรับจานาข้าวทาให้เกษตรกรมีทางเลือกในการขายผลผลิต ทั้งจากการขายเข้าสู่ตลาดตามปกติและการเข้าสู่โครงการรับจานาข้าวของรัฐบาล และอาจทาให้ราคาข้าวในท้องตลาดปรับตัวสูงขึ้นใกล้เคียงกับราคารับจานา นอกจากนี้ สถานการณ์น้าท่วมในภาคเหนือและภาคกลางของไทยซึ่งทาลายพื้นที่นาจะมีผลให้ปริมาณผลผลิตข้าวที่จะเข้าสู่ท้องตลาดในปีนี้ลดลง ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทาให้ราคาข้าวสูงขึ้น (โดยราคาข้าวนาปรังในเดือน ส.ค. 54 อยู่ที่ 9,523.2 บาทต่อตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่อยู่ที่ 8,993 บาทต่อตัน) ทั้งนี้ มาตรการรับจานาข้าวของรัฐบาลจะส่งผลดีต่อรายได้ของเกษตรกร ซึ่งล่าสุดรายได้เกษตรกรที่แท้จริงในเดือน ก.ค. 2554 หดตัวร้อยละ -2.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
3. ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เดือน ส.ค. 54 ขยายตัวร้อยละ 0.0 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
- ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เดือน ส.ค. 54 ขยายตัวร้อยละ 0.0 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (% mom) จากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 0.3 บ่งชี้ถึงภาคการบริโภคเอกชนที่ยังขยายตัวอย่างเปราะบางจากภาคการจ้างงานที่ยังไม่มีทิศทางฟื้นตัวอย่างชัดเจน ทั้งนี้ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ส.ค. 54 ไม่มีการขยายตัวเช่นเดียวกัน
- สศค. วิเคราะห์ว่า อัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับสูงจะยังคงเป็นข้อจากัดต่อการขยายตัวของภาคการบริโภคเอกชนและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในระยะต่อไป โดยอัตราการว่างงานล่าสุดเดือน ส.ค. 54อยู่ที่ร้อยละ 9.1 ของกาลังแรงงานรวม และการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค. 54 ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง บ่งชี้ถึงภาคการจ้างงานที่ยังไม่มีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ซึ่งจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อการใช้จ่ายภาคครัวเรือน อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลสหรัฐได้เสนอแผนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานเป็นจานวนเงิน 447,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อาจจะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงที่เหลือของปี 54 และปี 55 ได้
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:
Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th