รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 3 ตุลาคม 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 3, 2011 12:02 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 3 ตุลาคม 2554

Summary:

1. นายกฯ สั่ง สศช. ทบทวน GDP ปีหน้าห่วงวิกฤตโลกน้ำท่วมเล่นงาน

2. ปรับลดนโยบายค่าไฟฟรี ให้เหลือเพียง 65 หน่วยต่อเดือน

3. ดัชนี PMI จีนเดือน ก.ย. 54 เพิ่มขึ้นที่ระดับ 51.2

Highlight:
1. นายกฯ สั่ง สศช. ทบทวน GDP ปีหน้า ห่วงวิกฤตโลก น้าท่วม เล่นงาน
  • นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)ไปศึกษาทบทวนอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในปี 55 โดยดูผลกระทบทั้งจากปัจจัยภายนอกประเทศ ได้แก่ วิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐ ปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป ราคาพลังงาน รวมถึงปัจจัยในประเทศ ได้แก่ สถานการณ์น้ำท่วมในประเทศ และแนวโน้มการส่งออกที่อาจชะลอตัวในปีหน้า แต่จะมีแรงสนับสนุนจากการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจในการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร การขึ้นค่าแรง และเงินเดือน
  • สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2554 คาดว่าจะขยายตัวในอัตราร้อยละ 4.0 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.8 — 4.3) ชะลอลงจากปีก่อนหน้า ตามอุปสงค์ภายในประเทศ เนื่องจากผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย และจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและต้นทุนที่ยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง รวมถึงความไม่แน่นอนของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกจะยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสาคัญ สาหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2555 คาดว่า มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 4.5 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.0 — 5.0) (ประมาณการ ณ เดือนก.ย. 54) โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากทั้งอุปสงค์ภายในประเทศและอุปสงค์จากต่างประเทศที่คาดว่าจะยังคงขยายตัวได้ ตามการจ้างงานที่คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูง และนโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนการใช้จ่าย เช่น มาตรการปรับเพิ่มรายได้แรงงานรายวันและเงินเดือนข้าราชการ ขณะที่แรงสนับสนุนจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มว่าจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ โดยได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นภายหลังเหตุการณ์ภัยพิบัติสึนามิ แม้ว่าจะยังคงได้รับความเสี่ยงจากการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว
2. ปรับลดนโยบายค่าไฟฟรีให้เหลือเพียง 65 หน่วยต่อเดือน
  • กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรคกูเลเตอร์) สาขากิจการไฟฟ้า เปิดเผยว่าแนวโน้มค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) รอบเดือน ม.ค.- เม.ย. 55 มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น 10 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อพิจารณาจากราคาเชื้อเพลิงโดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติเฉลี่ย 6 เดือนหลังของปี 54 มีราคาสูงขึ้น ทั้งนี้ เรคกูเลเตอร์จะพยายามใช้เงินลงทุนที่ยังเหลืออยู่ 3,000 ล้านบาท มาตรึงค่าเอฟทีไม่ให้เปลี่ยนแปลงไปจากรอบปัจจุบัน สำหรับนโยบายใช้ไฟฟรี 90 หน่วยต่อเดือน เรคกูเลเตอร์ได้เสนอ รมว.พลังงานให้ปรับลดจานวนใช้ไฟฟรีให้เหลือเพียง 65 หน่วยต่อเดือน เพื่อให้ตรงกับคำจำกัดความของผู้มีรายได้น้อย คือต้องเป็นผู้มีรายได้ไม่เกิน 5,000 บาทต่อเดือน ซึ่งจะทำให้จำนวนผู้ได้รับสิทธิใช้ไฟฟรีลดลงเหลือเพียง 2 ล้านครัวเรือน จากเดิมที่ครอบคลุม 7 ล้านครัวเรือน
  • สศค. วิเคราะห์ว่า มาตรการค่าไฟฟ้าฟรี 90 หน่วย เป็นนโยบายช่วยเหลือภาระค่าครองชีพของประชาชนที่มีมาตั้งแต่สมัยอดีตรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช โดยตั้งใจจะเป็นการช่วยเหลือชั่วคราว 6 เดือน แต่รัฐบาลชุดที่แล้ว ได้นำมาเป็นการช่วยเหลือถาวร จนเมื่อเดือน ก.ค.54 ได้มีการยกเลิกมาตรการค่าไฟฟรี (บางส่วน) สำหรับหม้อแปลงที่ใหญ่กว่า 5 แอมป์ขึ้นไป เป็นผลให้ดัชนีราคาใหมวดไฟฟ้าเชื้อเพลิง น้าประปา และแสงสว่างในเดือน ก.ค. 54 ปรับตัวสูงขึ้นถึงร้อยละ 4.3 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ การปรับลดจานวนใช้ไฟฟรีให้เลือเพียง 65 หน่วย จะทาให้ผู้บริโภคหันมาประหยัดการใช้พลังงานมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อสิ่งแสดล้อมในระยะยาว อย่างไรก็ตาม อาจจะส่งผลให้ราคาค่าไฟฟ้าโดยเฉลี่ยปรับเพิ่มสูงขึ้น สร้างแรงกดดันทาให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นได้ ซึ่งหมวดค่าไฟฟ้าเชื้อเพลิง น้ำประปา และแสงสว่าง มีสัดส่วนอยู่ในตะกร้าเงินเฟ้อประมาณร้อยละ 5.0 โดยสศค.คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยของปี 54 และ 55 จะอยู่ที่ร้อยละ 3.8 และ 3.3 ตามลำดับ (ประมาณการ ณ เดือน ก.ย.54)
3. ดัชนี PMI จีนเดือน ก.ย. 54 เพิ่มขึ้นที่ระดับ 51.2
  • สมาพันธ์ลอจิสติกและการจัดซื้อแห่งชาติของจีน (CFLP) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ขยายตัวที่ระดับ 51.2 ในเดือนกันยายน จากระดับ 50.9 ในเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ดัชนี PMI ของจีน ปรับตัวลดลงสี่เดือนติดต่อกันมาอยู่ที่ระดับ 50.7 ในเดือนกรกฎาคม ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 50.9 ในเดือนสิงหาคม
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตในเดือน ก.ย. 54 ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามคาสั่งซื้อสินค้าส่งออกของจีนที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงที่สุดในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมา โดยดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนยังคงมีการขยายตัว ซึ่งจะส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อของจีน อย่างไรก็ดี คาดว่า ดัชนี PMI อาจมีการปรับตัวลดลงตามคาสั่งซื้อการส่งออกที่ลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงของของการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และปัญหาหนี้สาธารณะของสหภาพยุโรปที่ยังไม่คลี่คลาย ทั้งนี้ สศค. คาดว่า เศรษฐกิจจีนในปี 54 และ 55 จะขยายตัวร้อยละ 1.7 และ 2.0 ตามลาดับ (คาดการณ์ ณ ก.ย. 54)

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ