Macro Morning Focus ประจำวันที่ 5 ตุลาคม 2554
Summary:
1. ครม.ไฟเขียวรถไฟ-รถเมล์ฟรีถึง 15 ม.ค.55 และกู้ซื้อบ้านดอกเบี้ยร้อยละ 0
2. 'กิตติรัตน์'เรียกความเชื่อมั่นยันศก.ไทยแกร่ง-หุ้นร่วงแค่เคลื่อนไหวตามตลาดภูมิภาค
3. โกลด์แมน แซกส์ ปรับลด GDP โลก
Highlight:
1. ครม.ไฟเขียวรถไฟ-รถเมล์ฟรีถึง 15 ม.ค.55 และกู้ซื้อบ้านดอกเบี้ยร้อยละ 0
- คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบขยายมาตรการรถไฟฟรีและรถเมล์ฟรีเพื่อประชาชนไปจนถึงวันที่ 15 ม.ค.55 จากเดิมที่สิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค.54 เพื่อช่วยลดภาระให้กับประชาชนที่ใช้บริการเดินทางกลับต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้มีบ้านหลังแรก โดยให้ปล่อยสินเชื่อวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 ระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี ซึ่งได้เตรียมวงเงินไว้ทั้งสิ้น 2 หมื่นล้านบาท
- สศค. วิเคราะห์ว่า การต่ออายุมาตรการรถไฟฟรีและรถเมล์ฟรีเพื่อประชาชนของคณะรัฐมนตรีนั้น จะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนจากแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น โดยล่าสุด อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ก.ย.54 ขยายตัวร้อยละ 4.03 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้มีบ้านหลังแรกยังจะมีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและบรรเทาภาระภาษีให้กับประชาชนที่ต้องการมีบ้านหลังแรก รวมทั้งยังมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมและธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ ทั้งสองมาตรการยังถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนให้การบริโภคภายในประเทศขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นปัจจัยสาคัญที่ช่วยให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปี 54 เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สศค. คาดว่า การบริโภคภาคเอกชนที่แท้จริงในปี 54 จะเติบโตได้ดีที่ระดับร้อยละ 4.4 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 3.9-4.9) (คาดการณ์ ณ เดือน ก.ย.54
2. 'กิตติรัตน์'เรียกความเชื่อมั่นยันศก.ไทยแกร่ง-หุ้นร่วงแค่เคลื่อนไหวตามตลาดภูมิภาค
- รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึง สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยที่ผันผวนในช่วงนี้ว่า เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดในเอเชีย ซึ่งถือเป็นปกติและเป็นการเคลื่อนไหวตามตลาดหุ้นภูมิภาค โดยตลาดหุ้นไทยน่าจะยังเคลื่อนไหวผันผวนในช่วงสั้นจนกว่าการแก้ปัญหาหนี้ยุโรปจะมีความชัดเจน นอกจากนี้ ยังได้ย้าถึงพื้นฐานเศรษฐกิจของไทยที่ยังมีความแข็งแกร่ง และสามารถรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจโลกได้ โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่เชื่อว่าจะขยายตัวได้ตามเป้า แม้ว่าอาจได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของประเทศคู่ค้าบ้าง ขณะที่ไทยยังเกินดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ การขาดดุลของงบประมาณก็ไม่สูงมาก ยังสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ทั้งนี้ ก.พาณิชย์ตั้งเป้าการการส่งออกปี 54 ที่ 15% และปี 55 ที่ 15%
- สศค. วิเคราะห์ว่า จากปัญหาวิกฤตหนี้สาธารณะของกลุ่มยุโรปได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน สะท้อนได้จากตลาดทุนที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องและการส่งออกที่อาจจะชะลอลงจากปัญหาวิกฤตดังกล่าว อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกไปยังตลาดใหม่ เช่น จีน อินเดีย และภูมิภาคเอเชีย ทั้งนี้ สศค.คาดว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าในปี 54 จะขยายตัวร้อยละ 22.3 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 21.8 — 22.8 และในปี 55 จะขยายตัวร้อยละ 13.7 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 12.7 — 14.7 และเศรษฐกิจไทย ในปี 54 จะขยายตัวร้อยละ 4.0 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.8 — 4.3 และในปี 55 จะขยายตัวร้อยละ 4.5 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.0 — 5.0 (คาดการณ์ ณ เดือนก.ย.54) โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากทั้งอุปสงค์ภายในประเทศและอุปสงค์จากต่างประเทศที่คาดว่าจะยังคงขยายตัวได้ ตามการจ้างงานที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และนโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนการใช้จ่าย เช่น มาตรการปรับเพิ่มรายได้แรงงานขั้นต่าและเงินเดือนข้าราชการ
3. โกลด์แมน แซกส์ ปรับลด GDP โลก
- ธนาคารโกลด์แมน แซกส์ ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกปี 54 จาก 3.9% เหลือ 3.8% และจาก 4.2% เลือ 3.5% ในปี 55 โดยระบุว่าสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินของยูโรโซนที่แย่ลง ทาให้ธนาคารต้องปรับลด GDP โลก นอกจากนี้ ยังคาดการณ์เศรษฐกิจของเยอรมนีและฝรั่งเศสจะถดถอยเล็กน้อยในช่วงไม่กี่ไตรมาสข้างหน้า ขณะที่เศรษฐกิจยูโรโซนจะตกต่าลง โดยคาดว่าเศรษฐกิจยูโรจะขยายตัว 1.6% ในปี 54 และจะขยายตัว 0.1% ในปี 55 ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐฯจะขยายตัว 1.7% ในปี 54 และ 1.4% ในปี 55 จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2% ในปี 55
- สศค. วิเคราะห์ว่า ความไม่แน่นอนของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกจากปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์และการจ้างงานในสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยอัตราการว่างงานของสหรัฐฯในเดือนส.ค. 54 อยู่ที่ร้อยละ 9.1 และปัญหาวิกฤตหนี้สาธารณะของกลุ่มยุโรป ที่ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสาคัญต่อแนวโน้มอุปสงค์โลกที่อาจจะชะลอตัวลงมากกว่าที่คาด ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกสินค้าและบริการของไทยในปี 54 และปี 55 เนื่องจากสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปเป็นกลุ่มคู่ค้าหลักสาคัญอันดับที่ 3 และ 4 ตามลาดับ ทั้งนี้ สศค. คาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ และกลุ่มสหภาพยุโรปจะขยายตัวที่ร้อยละ 1.7 และ 1.7 ในปี 54 และในปี 55 จะขยายตัวร้อยละ 2.0 และ 1.5 ตามลำดับ (คาดการณ์ ณ เดือนก.ย. 54)
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:
Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th