ตามที่กระทรวงการคลังได้ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การอนุญาตให้ออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศ เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2549 และได้มีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมในประกาศฯ (ฉบับที่ 2) เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2554 เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอนุญาตให้สถาบันการเงินระหว่างประเทศ หน่วยงานหรือองค์การของรัฐบาลต่างประเทศ สถาบันการเงินของรัฐบาลต่างประเทศที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น นิติบุคคลต่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายของต่างประเทศ และนิติบุคคลเฉพาะกิจ (Special Purpose Vehicle) ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์โดยมีผู้เสนอโครงการเป็นหน่วยงานหรือองค์การของรัฐบาลต่างประเทศหรือเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายต่างประเทศ สามารถออกพันธบัตร หรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย นั้น
เพื่อให้การพิจารณาอนุญาตให้ออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและให้เกิดความยืดหยุ่นสามารถปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา ตลอดจนเพื่อให้เอื้อต่อการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทได้สะดวกมากยิ่งขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจึงได้เห็นชอบให้ปรับกำหนดการยื่นคำขออนุญาตออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศใหม่ โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
กำหนดการเปิดให้ยื่นคำขออนุญาตให้ปรับเป็นปีละ 3 ครั้ง คือ ภายในเดือนมีนาคม กรกฎาคม และพฤศจิกายนของทุกปี โดยผู้ขอจะต้องยื่นคำขอให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด และจะต้องออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทภายใน 9 เดือนนับตั้งแต่วันได้รับอนุญาต โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติม ดังนี้
1. ผู้ได้รับอนุญาตที่ได้ดำเนินการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทครบถ้วนตามวงเงินที่ได้รับอนุญาตไว้ก่อนวันปิดให้ยื่นคำขออนุญาตในรอบถัดไป จะสามารถยื่นคำขออนุญาตใหม่ในรอบถัดไปได้ทันที
2. ในกรณีที่ผู้ได้รับอนุญาตได้ดำเนินการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทไปแล้วบางส่วนแต่ยังไม่ครบถ้วนตามวงเงินที่ได้รับอนุญาต ผู้ได้รับอนุญาตสามารถยื่นคำขออนุญาตใหม่ได้ในรอบท้ายสุดก่อนระยะเวลาในการอนุญาตรอบเดิมจะสิ้นสุดลง
3. ในกรณีที่ผู้ได้รับอนุญาตไม่ดำเนินการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทภายในกำหนดระยะเวลานับแต่วันที่ได้รับอนุญาต ผู้ได้รับอนุญาตจะมีสิทธิยื่นคำขออนุญาตในรอบถัดไปได้หลังจากระยะเวลาในการอนุญาตรอบเดิมของตนสิ้นสุดลง
4. สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตในแต่ละรอบหากมีความประสงค์ขออนุญาตในรอบถัดไปให้ยื่นเพียงหนังสือแสดงความจำนงและข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือข้อมูลเพิ่มเติมโดยไม่ต้องยื่นคำขออนุญาตใหม่
เนื่องจากการพิจารณาอนุญาตจะพิจารณาจากข้อมูลที่มี ณ ขณะที่ยื่นขออนุญาต ดังนั้น กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิในการระงับการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยในกรณีที่สถานภาพ สถานะการเงิน หรือการอื่นใดที่เกี่ยวข้องของผู้ได้รับอนุญาตมีการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินอย่างมีนัยสำคัญ
จึงขอเชิญชวนนิติบุคคลต่างประเทศที่สนใจจะออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทยื่นคำขออนุญาตภายในกำหนดเวลาที่กล่าวข้างต้น
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 115/2554 6 ตุลาคม 54--