รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 12 ตุลาคม 2554

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 12 ตุลาคม 2554

1. น้ำท่วม กดดันเงินเฟ้อพุ่ง

2. น้ำท่วมทำยานยนต์ชะลอตัว 1-2 เดือน

3. คาดปี 54 ยอดขาดดุลงบประมาณสหรัฐฯ พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

• ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ผลกระทบของน้ำท่วมต่ออัตราเงินเฟ้อนั้น จะต้องมองแยกเป็นรายหมวดสินค้า โดยผลกระทบจากน้ำท่วมอาจทำให้สินค้าบางตัว เช่น อาหาร และของใช้จำเป็น ขยับตัวสูงขึ้น แต่สินค้าบางหมวดอาจสะท้อนกำลังซื้อที่ลดลง เช่น สินค้าคงทน และพลังงาน

• สศค. วิเคราะห์ว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ขยายเป็นวงกว้างในภาคเหนือ และภาคกลาง ได้ส่งผลกระทบความเสียหายต่อภาคเกษตรกรรม สะท้อนได้จากดัชนีผลผลิตภาคเกษตรกรรมในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส 3 ปี 54 หดตัวลงร้อยละ -1.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และอาจส่งผลต่อเนื่องทำให้ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยในไตรมาส 3 ปี 54 ดัชนีราคาสินค้าในหมวดเกษตรอยู่ที่ระดับ 164.8 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่อยู่ที่ระดับ 161.4 หรือขยายตัวร้อยละ 2.1 ซึ่งอาจส่งผลต่อต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ สศค. คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 54 จะขยายตัวร้อยละ 3.8 (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.6 — 4.1) (คาดการณ์ ณ ก.ย.54)

• นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คาดว่าจะทำให้ภาคการผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศชะลอการผลิต 1-2 เดือน เนื่องจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ส่วนใหญ่อยู่ใน จ.พระนครศรีอยุธยา แต่การชะลอดังกล่าวคงไม่รุนแรงเท่ากับเหตุการณ์ สึนามิ ในญี่ปุ่นที่ทำให้การผลิตรถยนต์ชะลอไปถึง 4-5 เดือน ทั้งนี้ คงจะมีการประเมินผลกระทบในภาพรวมหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย

• สศค. วิเคราะห์ว่า ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคกลาง ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีสัดส่วนต่อ GDP ถึงร้อยละ 40.8 โดยเฉพาะอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมาภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้น สะท้อนได้จากอัตราการใช้กำลังการผลิต (Cap U) และดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนส.ค. 54 ขยายตัวร้อยละ 88.6 และ 15.5 ตามลำดับ และสอดคล้องกับปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งและรถยนต์เชิงพาณิชย์ขยายตัวร้อยละ 26.4 และ 15.7 ตามลำดับ จากเหตุการณ์อุทกภัยดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ และอัตราการใช้กำลังการผลิตในส่วนยานยนต์ให้ชะลอตัวลง ทั้งนี้ จากการประเมินล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ต.ค. 54 พบว่าความเสียหายจากภาวะน้ำท่วมส่งผลให้ GDP ลดลงร้อยละ -0.6 และเมื่อรวมผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 54 จะขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์เดิม ณ เดือนก.ย. 54 ที่ร้อยละ 4.0 (ช่วงการคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.8 - 4.3

• สำนักงานงบประมาณแห่งรัฐสภาสหรัฐ (CBO) คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ในปีงบประมาณ 54 จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นขาดดุลงบประมาณร้อยละ -8.6 ต่อ GDP ในขณะที่การขาดดุลงบประมาณต่อ GDP ในปีงบประมาณ 53 และ 52 อยู่ที่ร้อยละ -8.9 และ -10.0 ตามลำดับ

• สศค. วิเคราะห์ว่า ปัจจุบันสหรัฐฯ กำลังเผชิญปัญหาการขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาลถึง 14.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และหนี้สาธารณะในระดับสูง (ข้อมูลในเดือน พ.ค.54 สหรัฐฯ มียอดหนี้สาธารณะคงค้างสูงถึง 14.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 93 ต่อ GDP) ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องลงนามประกาศกฎหมายปรับเพิ่มเพดานหนี้จากเดิมที่กำหนดไว้ที่ 14 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้มีผลบังคับใช้ทันที เพื่อให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมเงินได้เพิ่มอีกกว่า 2.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำมาใช้ชำระหนี้ได้ทันกำหนด อย่างไรก็ตาม การดำเนินการตามแผนลดการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐฯ ในอนาคตนั้นเป็นสิ่งที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงเปราะบางอาจส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลไม่เป็นไปตามเป้าหมาย กอปรกับการผ่านร่างกฎหมายสวัสดิการสาธารณสุขที่ให้บริการประชาชนจะทำให้ค่าใช้จ่ายของภาครัฐในปี 54 เพิ่มสูงขึ้นถึง 3.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 53 ประมาณ 300.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 9.5

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th