รายงานการเคลื่อนย้ายเงินทุน ไตรมาสที่ 3 ปี 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 25, 2011 10:30 —กระทรวงการคลัง

ไตรมาสที่ 2 ปี 2554 (เม.ย.54—มิ.ย.54) ดุลบัญชีเงินทุนขาดดุล 711 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 1,823 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ดุลการชำระเงินขาดดุล 0.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ1 ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จะพบว่าดุลการชำระเงินและดุลบัญชีเงินทุนปรับตัวลดลง สำหรับสาเหตุสำคัญของการที่ดุลการชำระเงิน และดุลบัญชีเงินทุนปรับตัวลดลง เนื่องจากมูลค่าการลงทุนในหลักทรัพย์ และการลงทุนอื่น ๆ ปรับตัวลดลงอย่างมาก

คาดว่าไตรมาสที่ 3 ปี 2554 (ก.ค.54-ก.ย.54) ดุลบัญชีเงินทุนขาดดุล 4,067 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งขาดดุลสูงสุดในรอบ 8 ไตรมาส โดยสาเหตุสำคัญมาจากความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้นจากปัญหาหนี้สาธารณะยุโรปและปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐ ส่งผลให้เกิดการไหลออกของเงินทุนต่างชาติในระดับสูงจากตราสารหนี้และตราสารทุน รวมทั้งการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของคนไทยเพิ่มขึ้น

1. สถานการณ์ดุลบัญชีเงินทุนไตรมาส 2 ปี 2554 (เม.ย.54-มิ.ย.53)

ดุลบัญชีเงินทุนขาดดุล 711 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 1,823 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ดุลการชำระเงินขาดดุล 0.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับสาเหตุสำคัญหลักของการขาดดุลบัญชีเงินทุนเกิดจากนักลงทุนต่างชาติขายหลักทรัพย์และลดการลงทุนในการลงทุนอื่น ๆ ทำให้มูลค่าการลงทุนดังกล่าวปรับตัวลดลง

การลงทุนโดยตรงสุทธิมีเงินทุนไหลเข้า 565 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเงินทุนไหลเข้า 1,269 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลงร้อยละ 55.5 การลงทุนในหลักทรัพย์สุทธิมีเงินทุนไหลออก 623 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 38.5 สำหรับการลงทุนอื่น ๆ สุทธิมีเงินทุนไหลออก 653 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเงินทุนไหลเข้า 1,896 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

1.1 สถานการณ์การลงทุนโดยตรง ไตรมาส 2 ปี 2554

การลงทุนโดยตรงสุทธิในไตรมาสที่ 2 ปี 2554 มีมูลค่า 565 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศมีมูลค่า 680 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมีเงินทุนไหลออกลดลงร้อยละ 6.6 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี ก่อนหน้า สำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีมูลค่า 1,245 ล้านดอลลาร์สหรัฐลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 37.7

1.2 สถานการณ์การลงทุนในหลักทรัพย์ไตรมาส 2 ปี 2554

การลงทุนในหลักทรัพย์สุทธิไตรมาสที่ 2 ปี 2554 มีเงินทุนไหลออกมูลค่า 623 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลงร้อยละ 38.5 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีเงินทุนไหลออกมูลค่า 1,013 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

การลงทุนในหลักทรัพย์ในต่างประเทศมีเงินทุนไหลออก (การซื้อหลักทรัพย์ที่ลงทุนในต่างประเทศของนักลงทุนไทย) มูลค่า 103 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการลงทุนในหลักทรัพย์จากต่างประเทศมีเงินทุนไหลออกมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 70.4

การลงทุนในตราสารทุนจากต่างประเทศมีเงินทุนไหลออกมูลค่า 478 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สำหรับการลงทุนในตราสารหนี้จากต่างประเทศนั้น มีเงินทุนไหลออก 43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเป็นเงินทุนไหลเข้า 225 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากข้อมูลตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า การซื้อขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในไตรมาสที่ 2 ปี 2554 มีมูลค่าการขายสุทธิ 14,099 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าการขายสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าสาเหตุที่มีการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นนั้น เป็นผลมาจากความเสี่ยงในตลาดการเงินโลกสูงขึ้น ภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐฯและประเทศในสหภาพยุโรปถดถอย ทำให้นักลงทุนมีการลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง

ขณะเดียวกันการลงทุนในตราสารทุนจากต่างประเทศจากข้อมูลของ ธปท. มีการไหลออกของเงินทุน 14,469 ล้านบาท

1.3 สถานการณ์การลงทุนอื่น ๆ ไตรมาส 2 ปี 2554

การลงทุนอื่น ๆ สุทธิไตรมาสที่ 2 ปี 2554 มีเงินทุนไหลออก 653 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เป็นเงินทุนไหลเข้า 841 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ทั้งนี้เมื่อพิจารณาในรายละเอียดจะพบว่า การลงทุนอื่น ๆ ของชาวต่างประเทศในประเทศไทยนั้นได้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งในไตรมาสที่ 2 ปี 2554 มีมูลค่าถึง 2,050 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่การลงทุนอื่น ๆ ของชาวไทยในต่างประเทศก็เพิ่มเป็นจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งมูลค่าการลงทุนในไตรมาสที่ 2 ปี 2553 มีมูลค่าติดลบ 2,703 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

การให้สินเชื่อของชาวต่างประเทศมีมูลค่า 3,284 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 264

2. แนวโน้มการเคลื่อนย้ายเงินทุน ไตรมาสที่ 3 ปี 2554 (ก.ค.54-ก.ย.54)

คาดว่าไตรมาสที่ 3 ปี 2554 ดุลการชำระเงินเกินดุล 1,433 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และดุลบัญชีเงินทุนขาดดุลอยู่ที่ 4,067 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งเปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เป็นเงินทุนไหลเข้าถึง 7,954 ล้านดอลลาร์สหรัฐและขาดดุลเพิ่มขึ้นจาก ไตรมาส 2 ปี 2554 ร้อยละ 472 ซึ่งมีสาเหตุสำคัญมาจากความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้น จากปัญหาหนี้สาธารณะยุโรปและปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐส่งผลให้เกิดการไหลออกของเงินทุนต่างชาติในระดับสูงจากตราสารหนี้และตราสารทุนรวมทั้งการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของคนไทยเพิ่มขึ้น

การลงทุนโดยตรงสุทธิมีเงินทุนไหลเข้า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเงินทุนไหลเข้า 1,113 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลงร้อยละ 91 การลงทุนในหลักทรัพย์สุทธิมีเงินทุนไหลออก 2,667 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเงินทุนไหลเข้าถึง 4,944 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการลงทุนอื่นๆ สุทธิมีเงินทุนไหลออก 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเงินทุนไหลเข้า 1,896 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

คาดว่าการลงทุนโดยตรงสุทธิไตรมาสที่ 3 ปี 2554 มีการไหลออกของเงินทุนมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลงจากเงินช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับมูลค่าการออกบัตรส่งเสริมการลงทุนของ BOI ที่มีการปรับตัวลดลงเช่นกันโดยการลงทุนโดยตรงสุทธิที่ลดลงนั้นเป็นผลมาจากการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศเพิ่มขึ้น

คาดว่าการลงทุนในตราสารทุนของชาวต่างชาติในไตรมาสที่ 3 ปี 2554 จะมีมูลค่าเงินทุนไหลออก 1,667 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากข้อมูลการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหลักทรัพย์ในระดับสูง สำหรับการลงทุนอื่น ๆ คาดว่ามีการไหลออกประมาณ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ