1. เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวร้อยละ 6 ต่อปีในไตรมาส 3
2. คณะทำงานศึกษาระบบภาษีพิจารณายกเลิกภาษี The Car Acquisition Tax
3. Bank of Japan ประกาศจะยังคงนโยบายดอกเบี้ยร้อยละ 0 ต่อไป
4. ญี่ปุ่นประกาศจะเข้าร่วมหารือในกรอบความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Strategic Economic Partnership Agreement : TPP)
-----------------------------------
Cabinet Office ได้เปิดเผยว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาส 3 ช่วงเดือนกรกฎาคม - กันยายน ของปีนี้ขยายตัวร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า การเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส เนื่องจากการผลิตรถยนต์ที่ฟื้นตัวขึ้นจากเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหวส่งผลให้การส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้น และการใช้จ่ายผู้บริโภคก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวได้ดีจนถึงระดับก่อนเกิดเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหวแล้ว แต่คาดว่าจะชะลอตัวลงจากเงินที่แข็งค่าขึ้นและผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงด้วย ส่วนอัตรา Nominal GDP เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและร้อยละ 5.6 ต่อปี โดยการใช้จ่ายผู้บริโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 เนื่องจากการซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้นและการใช้จ่ายในการบริการและท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้น ส่วนการลงทุนในที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.0
ด้านการส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 เนื่องจากการส่งออกรถยนต์ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันการนำเข้าก็เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 เนื่องจากก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น
คณะทำงานศึกษาระบบภาษีพิจารณายกเลิกภาษี The Car Acquisition Tax ซึ่งจ่ายภาษีตอนที่ซื้อรถยนต์ คาดว่ารายได้จากการเก็บภาษีลดลงประมาณ 200 พันล้านเยน เดิมมีการพิจารณาว่าจะยกเลิกภาษีตั้งแต่ปีงบประมาณ 2555 แต่ไม่สามารถหารายได้จากการเก็บภาษีอื่นมาแทนได้ จึงดำเนินการยกเลิกการพิจารณาพร้อมกับการปรับอัตราภาษีผู้บริโภคเพิ่มขึ้น
ปัจจุบันนี้เวลาบุคคลซื้อรถยนต์จะต้องจ่ายภาษี The Car Acquisition Tax และ ภาษีผู้บริโภค แล้วต้องจ่ายภาษีรถยนต์ (Car tax) ทุกปีและภาษีน้ำหนักรถยนต์ (Car weight tax) ใน 3 ปีแรกสำหรับรถยนต์คันใหม่หลังจากนั้นจ่ายทุก 2 ปี สมาคมรถยนต์และกระทรวงเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมได้เสนอให้ยกเลิกทั้งภาษี The Car Acquisition Tax และภาษีน้ำหนักรถยนต์ (Car weight tax) โดยให้เหตุผลมาจากการที่เงินเยนแข็งค่าขึ้นเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้กระทรวงการคลังและ Ministry of Internal Affairs and Communications กล่าวว่าหากสามารถรัฐบาลหารายได้จากการเก็บภาษีอื่นมาแทนได้ประมาณ 900 พันล้าน จะพิจารณาต่อไปว่าจะยกเลิกหรือไม่
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2554 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของ Bank of Japan (BOJ) ได้ลงความเห็นว่าจะยังคงนโยบายดอกเบี้ยร้อยละ 0 ต่อไปและจะยังไม่มีการเพิ่มนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ รวมทั้งจะยังไม่มีการเพิ่มวงเงินของกองทุนเพื่อการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลและพันธบัตรอื่นๆ ที่ปัจจุบันกำหนดวงเงินไว้เท่ากับ 55 ล้านล้านเยน อย่างไรก็ตาม BOJ กล่าวว่าปัจจุบันเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้เริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่จากปัจจัยของเศรษฐกิจโลกเช่นปัญหาความไม่แน่นอนทางการเงินของสหภาพยุโรปและปัญหาน้ำท่วมในประเทศไทยน่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นชะลอตัวลงอีกครั้ง BOJ จึงได้ปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจลงในการประชุมครั้งนี้ด้วย
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นนาย Yoshihiko Noda ได้ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2554 ว่าญี่ปุ่นจะเข้าร่วมหารือกรอบความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Strategic Economic Partnership Agreement : TPP) โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น นาย Koichiro Gemba ได้แจ้งต่อที่ประชุมระดับรัฐมนตรีของการประชุม APEC ที่ Honolulu ถึงการตัดสินใจของนาย Noda ในวันเดียวกัน ซึ่งนาย Noda ได้ยืนยันต่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Barak Obama ระหว่างการหารือทวิภาคีในวันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2554
การเข้าร่วมหารือของญี่ปุ่นใน TPP นี้มีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยกลุ่มผู้เห็นด้วยเห็นว่าการเข้าร่วม TPP จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่อยู่ในภาวะชะลอตัวได้ สำหรับกลุ่มผู้ไม่เห็นด้วยเห็นว่า TPP จะส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรเป็นอย่างมาก ซึ่งนาย Noda ได้กล่าวต่อสภาผู้แทนเมื่อวันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน 2554 ว่าญี่ปุ่นจะต้องเตรียมตัวอย่างดีสำหรับการเจรจากับประเทศที่เกี่ยวข้องในการเข้าร่วม TPP แต่ไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าร่วมหากการเข้าร่วมนั้นส่งผลเสียต่อประเทศญี่ปุ่น
สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลัง ณ กรุงโตเกียว
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th