รายงานภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่น ประจำสัปดาห์วันที่ 21 - 25 พฤศจิกายน 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 30, 2011 10:47 —กระทรวงการคลัง

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ดังนี้

1. สภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายในการปรับขึ้นภาษีสำหรับการก่อสร้างเพื่อฟื้นฟูความเสียหายจากแผ่นดินไหว

2. ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวและ ตลาดหลักทรัพย์โอซาก้าจะทาการควบรวมกันภายในปี 2556

3. การส่งออกประจำเดือนตุลาคมลดลงร้อยละ 3.7 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า

----------------------------------------

1. สภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นผ่านให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายในการปรับขึ้นภาษีสำหรับการก่อสร้างเพื่อฟื้นฟูความเสียหายจากแผ่นดินไหว

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2554 สภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นได้ให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายที่ให้อานาจรัฐบาลสามารถทาการขึ้นภาษีฉุกเฉินเพื่อหารายได้สำหรับการก่อสร้างเพื่อฟื้นฟูความเสียหายจากแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 โดยร่างกฎหมายนี้จะนำเสนอต่อวุฒิสภาในอาทิตย์หน้า

ในร่างกฎหมายดังกล่าวรัฐบาลสามารถขึ้นอัตราภาษีบางชนิดเป็นการชั่วคราวได้ เพื่อนารายได้ไปใช้ในการดำเนินการก่อสร้างในเขต Tohoku ที่ได้รับความเสียหาย โดยรัฐบาลได้มีแผนการที่จะทำการปรับขึ้นอัตรากาษีเงินได้บุคคบธรรมดาเป็นระยะเวลา 25 ปี นับจากเดือนมกราคม 2556 ในขณะที่ส่วนของอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล รัฐบาลได้ทำการลดอัตราภาษีลงร้อยละ 5 ตามที่เคยได้สัญญาไว้แล้วปรับขึ้นอัตราภาษีเป็นการชั่วคราวจำนวนร้อยละ 2.5 ควบคู่กัน โดยจะเริ่มมีผลในเดือนเมษายน 2555 ซึ่งนายกรัฐมนตรี นาย Yoshihiko Noda หวังว่าบริษัทต่างๆ จะสามารถใช้ประโยชน์จาการลดภาษีในการเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ในขณะที่การปรับขึ้นภาษีรายได้บุคคลธรรมดาจะช่วยให้รัฐบาลไม่ต้องทำการออกพันธบัตรเพื่อกู้เงินเพิ่ม

2. ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวและ ตลาดหลักทรัพย์โอซาก้าจะทาการควบรวมกันภายในปี 2556

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2554 นาย Atsushi Saito ประธานตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (Tokyo Stock Exchange: TSE) และนาย Michio Yoneda ประธานตลาดหลักทรัพย์โอซาก้า (Osaka Stock Exchange :OSE) ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงการควบรวมกันของ 2 ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะทำให้เป็นตลาดหลักทรัพย์อันดับ 3 ของโลกรองจาก NYSE Euronext และ NAS DAQ OMX Group Inc. USA โดยมีมูลค่าทางตลาดของหลักทรัพย์มากกว่า 3.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดย TSE จะทาการทาคาเสนอซื้อหุ้นของ OSE ที่ราคา 480,000 เยนต่อหุ้น (6,239 เหรียญสหรัฐ) ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาหุ้นของ OSE ที่ราคาปิดตลาดในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2554 อยู่ประมาณร้อยละ 14 การรวมตัวกันในครั้งนี้ ทั้ง 2 ตลาดจะช่วยสนับสนุนซึ่งกันและกันโดย TSE มีความแข็งแกร่งในเรื่องของการซื้อขายหุ้นในขณะที่ OSE มีความชานาญในเรื่องอนุพันธ์ นอกจากนั้น จะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการได้ถึง 7 พันล้านเยน (90.8 ล้านเหรียญสหรัฐ) สำหรับการดำเนินการควบรวมคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2556 บริษัทที่จะเกิดขึ้นหลังจากควบรวมคือ Japan Exchange Group Inc. โดยนาย Saito จะดำรงตำแหน่ง Chief Executive ในขณะที่ นาย Yoneda จะทำหน้าที่ Chief Operating Officer

3. การส่งออกประจำเดือนตุลาคมลดลงร้อยละ 3.7 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า

กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่าญี่ปุ่นขาดดุลการค้าในเดือนตุลาคม 2554 เท่ากับ 278.3 พันล้านเยน ซึ่งเป็นการขาดดุลการค้าเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน โดยการนาเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.9 ในขณะที่การส่งออกลดลงร้อยละ 3.7 โดยการส่งออกเดือนตุลาคมลดลงมาอยู่ที่ยอด 5.5128 ล้านล้านเยนซึ่งเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องมาจากได้รับผลกระทบจากวิกฤติหนี้สินของยูโรป เหตุการณ์น้ำท่วมในประเทศไทยและค่าเงินเยนที่แข็งขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ยูโรป ประเทศในแถบเอเชียและจีนลดลงร้อยละ 2.3 2.9 6.6 และ 7.7 ตามลำดับ โดยเฉพาะการส่งออกไปยังประเทศไทยลดลงร้อยละ 5.1 จากที่การผลิตในประเทศไทยต้องหยุดชะงักจากเหตุการณ์น้ำท่วม ส่วนมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องมาจากราคาก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มสูงขึ้นและความต้องการก๊าซธรรมชาติที่มีเพิ่มขึ้นจากการหยุดการเดินเครื่องปฎิกรณ์ของโรงผลิตไฟฟ้านิวเคลียร์และราคาน้ำมันที่สูงขึ้นด้วย

ดุลการค้าประจำเดือนตุลาคม 2554

หน่วย: พันล้านเยน

                  ยอดการส่งออก (ร้อยละ)          ยอดการนำเข้า (ร้อยละ)          ดุลการค้า (ร้อยละ)
สหรัฐฯ                 893.1 (-2.3)               503.6 (9.7)                  389.5 (-14.5)
สหภาพยุโรป             636.5 (-2.9)               536.2 (15.1)                 100.2 (-47.1)
เอเชีย (รวมจีน)       2,994.8 (-6.6)             2,629.0 (15.9)                 365.7 (-61.1)
สาธารณรัฐประชาชนจีน   1,077.0 (-7.7)             1,306.0 (16.5)                -228.9 (-)
รวม                  5,357.5 (2.8)             5,786.6 (17.9)                -273.8 (-)
ที่มา: กระทรวงการคลังญี่ปุ่น


          สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลัง ณ กรุงโตเกียว

          ที่มา:  Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
          Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ