รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 26 ธันวาคม 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 26, 2011 10:59 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 26 ธันวาคม 2554

Summary:

1. ลงนามแลกเปลี่ยนบาท-หยวน ลดความผันผวนค่าเงิน ดันส่งออกโต 20%

2. เร่งดันมาตรฐานโลจิสติกส์ไทย รับมือเปิดเสรีอาเซียน

3. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯในเดือนพ.ย.54 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8

Highlight:
1. ลงนามแลกเปลี่ยนบาท-หยวน ลดความผันผวนค่าเงิน ดันส่งออกโต 20%
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การลงนามในความตกลงทวิภาคีเพื่อแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลหยวนและบาทกับจีน วงเงิน 7 หมื่นล้านหยวน หรือ 3.2 แสนล้านบาท จะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าไทย-จีน ในอีก 5 ปีข้างหน้า ให้เติบโตขึ้นร้อยละ 20 จากปัจจุบันมีมูลค่าการค้าร่วมกันอยู่ที่ 45,000 - 50,000 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นเงินหยวนในสัดส่วนร้อยละ 1 โดยใน 5 ปีข้างหน้า มูลค่าการค้าจะอยู่ที่ 70 พันล้านหยวน นอกจากนี้ยังจะเป็นการช่วยดึงธุรกรรมที่อยู่นอกระบบธนาคารให้เข้ามาอยู่ในระบบธนาคารมากขึ้น และจะเป็นการเพิ่มทางเลือกลดความผันผวนของค่าเงิน นอกจากนี้ ธปท. มีแนวคิดที่จะหารือในการประชุม Executives’ Meeting of East Asia-Pacific Central Banks (EMEAP) ซึ่งเป็นกลุ่มอาเซียน 5 ประเทศ บวกอีก 6 ประเทศ เพื่อขอใช้เงินสกุลท้องถิ่นนั้นๆ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ปัจจุบันจีนเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย ซึ่งจีนเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย โดยในช่วง 11 เดือนแรกของปี 54 ไทยส่งออกไปยังจีนคิดเป็นมูลค่า 25,366 ล้านบาทขยายตัวร้อยละ 18.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน สินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไปยังจีน ได้แก่คอมพิวเตอร์ ยางพารา เคมีภัณฑ์ เป็นต้น ขณะที่ไทยนำเข้าสินค้าสำคัญจากจีน ได้แก่ คอมพิวเตอร์ เครื่องจักรไฟฟ้า เครื่องจักรกล และเคมีภัณฑ์ ทั้งนี้ การลงนามในความตกลงทวิภาคีเพื่อแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลหยวนและบาทจะช่วยส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและจีนให้ขยายตัวมากยิ่งขึ้น
2. เร่งดันมาตรฐานโลจิสติกส์ไทย รับมือเปิดเสรีอาเซียน
  • อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงการเปิดเสรีภาคบริการโลจิสติกส์ตามกรอบของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) กำหนดให้ประเทศสมาชิกสามารถถือหุ้นในธุรกิจโลจิสติกส์ได้ 70% ในปี 56 ว่าการเปิดเสรีดังกล่าว จะส่งผลให้แนวโน้มการแข่งขันมีความเข้มข้นมากขึ้น ซึ่งธุรกิจโลจิสติกส์มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยอย่างมาก จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันทางการค้าของประเทศได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ในปี 2555 กรมจะพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์สู่เกณฑ์คุณภาพและมาตรฐาน ISO อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีจำนวนธุรกิจที่ผ่านการพัฒนามาตรฐาน ISO 9001 ซึ่งในแต่ละปี มีบริษัทที่เข้าเกณฑ์ ISO จำนวนไม่มากนัก
  • สศค.วิเคราะห์ว่า การเปิดเสรีทางการค้าด้านธุรกิจโลจิสติกส์จะส่งผลให้มีการแข่งขันกันมากขึ้นนำมาซึ่งการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของไทย ทำให้ต้นทุนด้านการขนส่งลดลง และส่งผลให้เกิดการขยายตลาดของสินค้า (เนื่องจากระบบขนส่งสะดวกและทั่วถึงมากขึ้น) จากปัจจัยเหล่านี้ จะส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทั้งด้านการบริโภค การลงทุน รวมถึงการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียน ซึ่งเป็นผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาศักยภาพด้านการแข่งขันของไทยในอนาคต
3. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯในเดือนพ.ย.54 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8
  • ในเดือนพ.ย. 54 ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ ขยายตัวเร่งขึ้นร้อยละ 3.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงที่สุดในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากความต้องการในอุปกรณ์การบินและเครื่องบินเป็นสำคัญ ทั้งนี้ เมื่อหักอุปกรณ์ทางการขนส่งและคมนาคมอาทิ เครื่องบินเชิงพาณิชย์ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนขยายตัวชะลอลงที่ร้อยละ 0.3 นอกจากนี้ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศหักเครื่องบินในเดือนพ.ย. 54 หดตัวร้อยละ -1.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบปี 2554
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การเพิ่มขึ้นของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนไม่ได้บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจสหรัฐฯ สะท้อนจากยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศในเดือนพ.ย. 54 ที่หดตัวซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงแนวโน้มการลงทุนของภาคธุรกิจในอนาคตและภาคการผลิตที่ยังคงอ่อนแอ แม้ว่าทางรัฐบาลสหรัฐฯจะจูงใจผู้ประกอบการให้มีการลงทุนเครื่องมือเครื่องจักรใหม่ด้วยมาตรการหักรายจ่ายทางธุรกิจโดยภาคเอกชนสามารถนำรายจ่ายในการซื้อสินค้าทุนมาหักออกจากการคำนวณภาษีได้ถึงร้อยละ 100 โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ผู้ประกอบการยังมีความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สาธารณะในสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ และปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยในประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรายใหญ่ ทั้งนี้ สศค. คาดว่า ในปี 2554 และ 2555 คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯจะเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 1.7 และ 2.0 ตามลำดับ (คาดการณ์ ณ ก.ย. 54) ซึ่งจะมีการปรับประมาณการอีกครั้งในอีก 2 วันข้างหน้านี้

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ