Macro Morning Focus ประจำวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555
Summary:
1. ก. คลังขออนุมัติกู้เงินบริหารจัดการน้ำ
2. “กิตติรัตน์” แนะเอกชนพร้อมรับ-รุก AEC
3. สถาบันการเงินของจีนควรจะใช้นโยบายการเงินที่รอบคอบเพื่อสร้างความเชื่อมั่น
Highlight:
1. ก. คลังขออนุมัติกู้เงินบริหารจัดการน้ำ
- การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี กระทรวงการคลังจะเสนอขออนุมัติกู้เงินตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำ และสร้างอนาคตประเทศปี 55 วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินการในโครงการเร่งด่วน ได้แก่ การสร้างคันกันน้ำถาวรริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และการเตรียมพื้นที่รับน้ำและการชดเชยให้แก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณพื้นที่รับน้ำ
- สศค.วิเคราะห์ว่า การให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 วงเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท แบ่งออกเป็น 1) คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) วงเงิน 3.0 แสนล้านบาท ใช้สำหรับลุ่มน้ำเจ้าพระยา และ 4.0 หมื่นล้านบาท ใช้กับ 17 ลุ่มน้ำ อาทิเช่น โครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าและดิน การสร้างอ่างเก็บน้ำอย่างเหมาะสมและยั่งยืน การจัดทำผังการใช้ที่ดิน การจัดทำทางน้ำหลาก (flood way) เป็นต้น และ 2) คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) วงเงิน 1.0 หมื่นล้านบาท ใช้สำหรับโครงการปรับปรุงน้ำท่วมทั้งนี้ การกู้เงินเพื่อดำเนินการในโครงการดังกล่าวจะเป็นปัจจัยบวกในการสนับสนุนการบริโภคการลงทุนภายในประเทศ และสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน ภายหลังเหตุการณ์วิกฤตอุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 54 ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในปี 54 ขยายตัวได้เพียงร้อยละ 0.1 ต่อปี
2. “กิตติรัตน์” แนะเอกชนพร้อมรับ-รุก AEC
- รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลัง กล่าวภายหลังการเปิดการสัมมนา ASEAN Business Forum 2012 ว่า การจัดงานดังกล่าวเพื่อให้ภาคเอกชนได้มีการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่เศรษฐกิจประชาคมอาเซียน (AEC) ในปี 58 เพื่อให้นักธุรกิจไทยได้มีการตื่นตัวในการเปิดรับข้อมูลความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ จากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้การเตรียมพร้อมรับการเปิด AEC เป็นเรื่องที่ภาคเอกชนต้องเตรียมตัวโดยรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน ดังนัน้ สิ่งสำคัญคือภาคธุรกิจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
- สศค. วิเคราะห์ว่า ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ในปี 58 นั้น ซึ่งจะทำให้มีการเคลื่อนย้ายสินค้าและบริการตลอดจนทุนและแรงงานได้อย่างเสรีมากขึ้น ภายใต้การเปิดเสรี ทั้งนี้ ประเทศไทยได้มีการ
พิจารณาการปรับโครงสร้างภาษีอากรให้มีความสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นโดยภาครัฐได้มีนโยบายในการรองรับ ได้แก่ การปฏิรูปโครงสร้างภาษีเงินได้นิติบุคคลลงจากปัจจุบันที่จัดเก็บในอัตราร้อยละ 30.0 โดยมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 54 ได้มีมติเห็นชอบให้มีการปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือร้อยละ 23.0 ในปี 55 และลดลงเหลือร้อยละ 20.0 ในปี 56 เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชน เป็นการขยายฐานภาษี และรองรับการเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
3. สถาบันการเงินของจีนควรจะใช้นโยบายการเงินที่รอบคอบเพื่อสร้างความเชื่อมั่น
- รองนายกรัฐมนตรีของจีนได้เรียกร้องให้มีการดำเนินการมากขึ้นเพื่อสนับสนุนการพัฒนาสถาบันการเงินขนาดกลางและขนาดย่อมอย่างเหมาะสม เพื่อให้สถาบันเหล่านี้สามารถตอบสนองกับสภาพเศรษฐกิจที่แท้จริงได้ดีขึ้นพร้อมทั้งยังเสนอแนะว่า สถาบันการเงินควรจะใช้นโยบายการเงินที่รอบคอบและดำเนินการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าจะเกิดเสถียรภาพทางการเงินและส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
- สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มเติบโตได้ดีแม้ว่าจะขยายตัวชะลอลงจากปีก่อนตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีสัญญาณชะลอตัวลง โดยล่าสุด GDP ในไตรมาสที่ 4 ปี 54 ขยายตัวในอัตราต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี ครึ่งที่ร้อยละ 8.9 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และส่งผลให้ทั้งปี 54 เศรษฐกิจจีนขยายตัวร้อยละ 9.2 อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงโดยเฉพาะภาคการส่งออก โดยล่าสุด มูลค่าการส่งออกและการนำเข้าสินค้าในเดือน ม.ค. 55 หดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี โดยหดตัวร้อยละ -0.5 และ -15.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ก่อน ตามลำดับดังนั้น ธนาคารกลางของจีนจึงได้มีนโยบายปรับลดสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยได้ประกาศลด RRR ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ และขนาดกลางและเล็กลงเหลือร้อยละ 20.5 และร้อยละ 17.0 ตามลำดับ โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดราว 4 แสนล้านหยวน หรือ 6.354 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกันนี้รัฐบาลจีนได้ประกาศนโยบายเพิ่มรายได้โดยการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำในเมืองเศรษฐกิจของจีนเพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศอีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้ สศค. คาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในปี 55 จะขยายตัวร้อยละ 8.4 (คาดการณ์ ณ เดือน ธ.ค.54)
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:
Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th