FPO WEEKLY CONSENSUS (27 กุมภาพันธ์ 2555)

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 29, 2012 10:26 —กระทรวงการคลัง

สรุปความเห็นนักวิเคราะห์ต่อทิศทางตลาดเงินตลาดทุนสัปดาห์นี้

  • นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มีความเห็นว่าค่าเงินในสัปดาห์นี้น่าจะยังคงมีแนวโน้มแข็งตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยทิศทางค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น โดยนอกจากตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาดีในช่วงที่ผ่านมาแล้ว ทิศทางการแข็งตัวของค่าเงินบาทน่าจะได้รับแรงสนับสนุนจากเงินที่ไหลเข้าจากค่าชดเชยความเสียหายจากน้าท่วม ความคืบหน้าของวิกฤตการหนี้ยุโรป และแผนการช่วยเหลือที่น่าจะออกมาเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น ทาให้เงินทุนส่วนหนึ่งไหลเข้ามาลงทุนในตลาดเกิดใหม่ อย่างไรก็ตาม ตลาดน่าจะยังคงจับตาถึงรายละเอียดความคืบหน้าของแผน LTRO (Long Term Refinance Operation) ที่ ECB มีกาหนดประกาศออกมาในช่วงวันพุทธนี้
  • อัตราดอกเบี้ย R/P 1 วัน จะยังคงอยู่ที่ 3.00 % โดยนักวิเคราะห์เห็นว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในสัปดาห์นี้
  • Bond Yield อายุ 2 ปี และ Bond Yield อายุ 10 ปี มีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากความกังวลว่าการออกพันธบัตรของรัฐบาลเป็นจานวนมากที่จะทยอยออกมา นอกจากนี้ภายหลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่างพรก.ทางการเงินสองฉบับไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ทาให้ตลาดคาดการณ์ว่าอุปทานในตลาดตราสารหนี้จะเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มสูงขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
  • นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า SET มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา จากแนวโน้มความคืบหน้าของวิกฤตการหนี้สาธารณะของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปที่พัฒนาไปในทางที่ดีทาให้ตลาดมี risk appetite ในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น และมาตรการผ่อนปรนทางการเงินของประเทศพัฒนาแล้วที่จะเริ่มทยอยออกมา น่าจะยังคงเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนให้ตลาดทุนยังสามารถปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นได้ โดยตลาดจะจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ (GDP,Q4) ในวันพุทธและผลการประชุมแผน LTRO ของ ECB อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าสถานการณ์ความตรึงเครียดระหว่างประเทศอิหร่านและชาติตะวันตกที่ส่อเค้าบานปลายหลังอิหร่านปฏิเสธทีมผู้สังเกตการณ์จาก IAEA เข้าตรวจในโรงงานนิวเคลียร์ที่มีปัญหา
  • นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า นักลงทุนต่างชาติจะยังคงซื้อสุทธิทั้งในตลาดตราสารหนี้ และตลาดตราสารทุนเนื่องจากความกังวลในเรื่องความไม่แน่นอนของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปลดลง ทาให้เงินลงทุนบางส่วนไหลกลับสู่ตลาดในกลุ่มประเทศเกิดใหม่เพิ่มมาก
ความเห็น สศค.
  • คาดว่า นักลงทุนต่างชาติจะยังคงซื้อสุทธิทั้งในตลาดตราสารทุนและตลาดตราสารหนี้ เนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ดีขึ้นจากทิศทางตัวเลขเศรษฐกิจในสหรัฐที่มีแนวโน้มดีขึ้น และแนวโน้มการคลี่คลายของปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป รวมทั้งสภาพคล่องที่ล้นตลาดจากมาตรการผ่อนปรนทางการเงินของประเทศพัฒนาแล้ว และ คาดว่าจะมีการทยอย QE (Quantitative Easing) เพิ่มขึ้นอีกหลังจากที่ธนาคารกลางประเทศญี่ปุ่นดาเนินการเมื่อกลางเดือนก.พ. 10 ล้านล้านเยน รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้น 65 ล้านล้านเยน(ราว 25 ล้านล้านบาท)

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ