FPO WEEKLY CONSENSUS (12 มีนาคม 2555)

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 13, 2012 12:20 —กระทรวงการคลัง

สรุปความเห็นนักวิเคราะห์ต่อทิศทางตลาดเงินตลาดทุนสัปดาห์นี้

  • นักวิเคราะห์มีความเห็นว่าค่าเงินในสัปดาห์นี้น่าจะยังคงมีทิศทางที่ไม่ชัดเจน ความคืบหน้าของวิกฤตการหนี้ยุโรปที่มีแนวโน้มไปในทางที่ดีหลังจากกรีซประสบความ สาเร็จในการเจรจาสวอปหนี้ และมาตรการ LTRO (Long Term Refinance Operation) ระรอกที่สอง ทาให้นักลงทุนคลายความกังวล และน่าจะยังคงนำเงินเข้ามา ลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่มีแนวโน้มดีอย่างต่อเนื่อง กอรปกับเป็นช่วงปิดงบบัญชีของบริษัทญี่ปุ่นรวมทั้งการออกพันธบัตรสกุลเงินบาทของสถาบันการเงินเกาหลี และภาคการผลิตในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จากวิกฤตการอุทกภัยน่าจะเป็นปัจจัยที่กดดันให้ ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงได้
  • อัตราดอกเบี้ย R/P 1 วัน จะยังคงอยู่ที่ 3.00 % โดยนักวิเคราะห์เห็นว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในสัปดาห์นี้ โดยทางธนาคารแห่งประเทศไทย น่าจะยังคงรอดูผลกระทบจากการลดอัตราดอกเบี้ย R/P ในสองรอบที่ผ่านมา
  • Bond Yield อายุ 2 ปี และ Bond Yield อายุ 10 ปี มีแนวโน้มที่ไม่ชัดเจนแต่น่าจะยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าในช่วงต้นปี จากความกังวลของปริมาณพันธบัตรรัฐบาล จานวนมากที่จะเริ่มทยอยออกมา อย่างไรก็ตามมาตรการผ่อนปรนทางการเงินของประเทศพัฒนาแล้วจะเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไม่น่าจะเพิ่มสูงขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญ โดยในระยะสั้น เงินทุนไหลเข้าที่ชะลอตัวลง ทำให้การประมูลพันธบัตรงวดที่ BOT151 ในสัปดาห์หน้าไม่น่าจะมีความต้องการมากนัก อาจส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยได้
  • นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบที่ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน โดยดัชนีจะได้รับแรงสนับสนุนจากแนวโน้มความคืบหน้าของวิกฤตการหนี้สาธารณะของ กรีซที่พัฒนาไปในทางที่ดีหลังการสหภาพยุโรปเพิ่มวงเงินใน LTRO อีกเป็นระรอกที่สอง และตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่พัฒนาไปในทางที่ดี รวมทั้งการที่ FED น่าจะ ยังคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับ 0-0.25% อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่าตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทยได้ปรับตัวขึ้นเร็ว ในช่วงที่ผ่านมาและมีโอกาสสูงที่จะถูกขายทำกำไรในระยะสั้นและเข้าสู่ระยะการปรับฐานในระดับที่จำกัด โดยสถานการณ์ในตะวันออกกลางจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ยังคง กดดันตลาดต่อไป
  • นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า นักลงทุนต่างชาติจะยังคงซื้อสุทธิทั้งในตราสารทุนและตลาดตราสารหนี้ต่อไป แต่อาจมีแรงขายสุทธิบ้างในส่วนของนักลงทุนสถาบัน แต่อาจมี fund flow ที่ชลอตัวลง
ความเห็น สศค.
  • คาดว่า นักลงทุนต่างชาติจะยังคงซื้อสุทธิทั้งในตลาดตราสารทุนและตลาดตราสารหนี้ เนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ดีขึ้นทั้ง จากทิศทางตัวเลขเศรษฐกิจในสหรัฐ และปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปที่มีแนวโน้มพัฒนาไปในทิศทางที่ดี โดยสถานการณ์วิกฤตการณ์ในตะวันออกกลางไม่น่าจะพัฒนาไปในทางที่เลวร้ายกว่านี้ และ ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังทรงตัวในระดับสูง น่าจะเป็นปัจจัยบวกในการลงทุนในดัชนี SET ซึ่งมีสัดส่วนของหุ้นกลุ่มพลังงานมากที่สุด โดยรวมแล้ว น่าจะยังคงมีเงินทุนจากต่างชาติไหลเข้ามาในตลาดต่อไป แต่ปริมาณของเม็ดเงินอาจชะลอตัวลงเนื่องจากในช่วงต้นปีมีเงินทุนจากต่างชาติไหลเข้ามาในปริมาณมากแล้ว

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


แท็ก efinance   ยุโรป   กรีซ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ