Macro Morning Focus ประจำวันที่ 15 มีนาคม 2555
Summary:
1. แบงก์ชาติปรับเป้าจีดีพีปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 6%
2. ทีดีอาร์ไอแนะ ฟื้นฟูโรงงานน้ำท่วม หันใช้เทคโนโลยีลดใช้ต่างด้าว
3. ธนาคารกลางสหรัฐฯ ตรึงอัตราดอกเบี้ยต่ำถึงปี 57 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
Highlight:
1. แบงก์ชาติ ปรับเป้าจีดีพีปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 6%
- นางสุชาดา กิระกุล รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ แบงก์ชาติ บอกว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยขณะนี้เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ โดยคาดว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจปี 55 จะขยายตัวถึง 6% จากเดิมที่ แบงก์ชาติ คาดว่าจะขยายตัว 4.9%
- สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 55 คาดว่าจะกลับมาขยายตัวเร่งขึ้นจากปี 54 ที่ขยายตัวร้อยละ 0.1 จากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 54 ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากอุปสงค์ภายในประเทศที่คาดว่าจะกลับมาขยายตัวเร่งขึ้น จากนโยบายภาครัฐในการสนับสนุนการใช้จ่ายภายในประเทศ เช่น นโยบายปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่า 300 บาท การปรับเพิ่มเงินเดือนราชการ และโครงการจานาข้าวเปลือก ขณะที่การลงทุนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนคาดว่าขยายตัวเร่งขึ้นจากปีก่อนหน้าเช่นกัน โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และความจาเป็นในการเร่งฟื้นฟูอาคารบ้านเรือนและเครื่องมือเครื่องจักรในภาคอุตสาหกรรมภายหลังจากวิกฤติมหาอุทกภัยคลี่คลายลง ประกอบการผ่านร่างพ.ร.ก.ให้อานาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้าและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ.2555 วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท โดยล่าสุดครม.มีมติในการกู้เงินจานวน 24,828 ล้านบาท จาก พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท เพื่อลงทุนใน โครงการป้องกันน้าท่วมจานวน 246 โครงการ ประกอบกับการออกพ.ร.ก.กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ และพ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนมากขึ้น ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 55 จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 5.0 ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.5 — 5.5 (ประมาณการ ณ เดือน ธ.ค. 54) และจะมีการปรับประมาณการอีกครั้งในเดือนมี.ค. 55
2. ทีดีอาร์ไอแนะ ฟื้นฟูโรงงานน้ำท่วม หันใช้เทคโนโลยีลดใช้ต่างด้าว
- ผู้อานวยการวิจัยด้านการพัฒนาแรงงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยว่าจากการศึกษาตลาดแรงงานทั่วประเทศ 18 กลุ่มจังหวัด และกรุงเทพมหานคร ยืนยันโครงสร้างแรงงานไทยมีปัญหาความไม่สอดคล้องกันของการผลิตและการจ้างงาน โดยมีแรงงานล้นเกิน ในระดับปริญญาตรีจนมีปัญหาว่างงาน ดังนั้นทางเลือกหนึ่งที่ควรพิจารณาคือการส่งเสริมให้มีการจ้างงานปริญญาตรีในตลาดต่างประเทศ เปิดตลาดแรงงานระดับบนของไทยในตลาดเสรีอาเซียนซึ่งกำลังจะมีผลเป็นทางการในอีก 2-3 ปีที่จะมาถึง
- สศค. วิเคราะห์ว่า สถานการณ์การจ้างงานล่าสุด ณ ธันวาคมปี 54 พบว่า กาลังแรงงานผู้มีงานทามีจานวน 39.49 ล้านคนหรือคิดเป็นร้อยละ 99.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และจากสถานการณ์มหาอุทกภัยที่ผ่านมา ภาครัฐจึงมีแนวทางในการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีที่มากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดการขาดแคลนแรงงานไทยและการใช้แรงงานต่างด้าวที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ การร่วมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 58 ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรีเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการไหลเข้าของแรงงานระดับล่างในไทย และเป็นการส่งออกแรงงานระดับคุณภาพ โดยจาเป็นต้องเตรียมพร้อมในการพัฒนาบุคลากร อันได้แก่ การยกระดับมาตรฐานทางการศึกษา พัฒนาแนวความคิดและวัฒนธรรมทางการเรียนรู้ ขณะเดียวกันภาครัฐมีภาระที่จะต้องพัฒนาแนวทางคุ้มครองแรงงานให้มีมาตรฐานสากลมากยิ่งขึ้น
3. ธนาคารกลางสหรัฐฯ ตรึงอัตราดอกเบี้ยต่ำถึงปี 57 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0-0.25% พร้อมยืนยันว่าจะยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่าเป็นพิเศษอย่างน้อยจนถึงปี 2557 โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการใช้นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 และประเมินว่าภาวะตึงเครียดในตลาดเงินทั่วโลกผ่อนคลายลงแล้ว แต่ความตรึงเครียดจากปัจจัยอื่นยังคงทาให้เศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะถดถอยอย่างมีนัยสาคัญ
- สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐในปี 54 มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 1.7 ชะลอลงจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 3.0 อย่างไรก็ตาม ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 54 — ม.ค. 55 ข้อมูลเศรษฐกิจได้แก่ ตัวเลขการจ้างงาน ดัชนีภาคการผลิต และยอดค้าปลีกของสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้น บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีปัจจัยหนุน และจากตัวเลขค้าปลีกเดือน ก.พ. ที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐพึ่งประกาศล่าสุดสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยยอดค้าปลีกเดือนก.พ.ปรับตัวขึ้นร้อยละ 1.1 ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1 จากยอดขายรถยนต์และสินค้าอื่นๆที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 ซึ่งสะท้อนว่าภาคครัวเรือนและการลงทุนในภาคธุรกิจของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว แม้ตลาดที่อยู่อาศัยจะยังคงซบเซา นอกจากนี้แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อปัจจุบันจะปรับลดลงในระดับหนึ่งแต่ราคาน้ามันที่เพิ่มสูงขึ้นอาจหนุนให้เงินเฟ้อสูงขึ้นได้ และถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสาคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ทั่งนี้ สศค.คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐในปี 55 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 1.9
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:
Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th