รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 20 มีนาคม 2555

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 20, 2012 12:31 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 20 มีนาคม 2555

Summary:

1. ธปท.ชี้เงินบาทแข็งค่าช่วงนี้ยังไม่น่าห่วง

2. ส.อ.ท. คาดแนวโน้มราคาสินค้าอาจปรับเพิ่มขึ้น

3. ธนาคารกลางกรีซคาดเศรษฐกิจประเทศจะยังคงหดตัวและมีอัตราว่างงานที่สูงต่อเนื่อง

Highlight:
1.ธปท.ชี้เงินบาทแข็งค่าช่วงนี้ยังไม่น่าห่วง
  • ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่าการเคลื่อนไหวของค่าเงินในช่วงนี้ มีทั้งแข็งค่าขึ้นและอ่อนค่าลง แต่ช่วงนี้มีทิศทางแข็งค่าขึ้นมาบ้าง โดยอยู่ที่ระดับ 30.60 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐฯ เพราะเป็นช่วงที่นักลงทุนต่างชาติกล้านำเงินออกมาเสี่ยงลงทุนนอกประเทศมากขึ้น สะท้อนได้จากช่วงนี้มีเงินทุนไหลเข้าประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และดัชนีตลาดหุ้นไทยเองก็เพิ่มขึ้นมามาก อย่างไรก็ดียังไม่น่ากังวลนัก เนื่องจากที่แข็งค่าขึ้นในช่วงนี้ น่าจะมีข้อดี ที่จะช่วยบรรเทาภาวะการนำเข้าราคาพลังงานหรือราคาน้ำมันที่แพงขึ้นได้บ้าง
  • สศค.วิเคราะห์ว่า ค่าเงินบาทในเดือน มี.ค.55 เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบที่ 30.5-30.75 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐฯ โดยในสัปดาห์นี้เริ่มมีทิศทางแข็งค่าขึ้นบ้างเนื่องจากเงินทุนเคลื่อนย้ายที่ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยที่เพิ่มขึ้น หลังจากธนาคารกลางยุโรปออกมาตรการเพิ่มสภาพคล่อง โดยให้วงเงินกู้ระยะยาวแก่สถาบันการเงิน (Longer-term Refinancing Operation : LTRO) ทำให้สถาบันการเงินสามารถนำเงินที่ได้มาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและมีผลตอบแทนสูงกว่า อย่างเช่นในตลาดหลักทรัพย์ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ทั้งนี้การลงทุนดังกล่าวเป็นการลงทุนในระยะสั้น จึงอาจทำให้ค่าเงินบาทมีโอกาสผันผวนได้สูงหากมีการเคลื่อนย้ายเงินทุนกลับไป จึงต้องติดตามการเคลื่อนไหวของเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิด
2. ส.อ.ท. คาดแนวโน้มราคาสินค้าอาจปรับเพิ่มขึ้น
  • นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงแนวโน้มราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยยอมรับว่า เกิดจากปัจจัยที่มีผลโดยตรง ได้แก่ ราคาน้ำมัน ค่าแรง และวัตถุดิบ ที่ปรับสูงขึ้นโดยตลอด เป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ผู้ผลิตอาจจะมีการปรับเพิ่มราคา
  • สศค.วิเคราะห์ว่า ราคาอาหารที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นมีผลมาจากต้นทุนการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ ทั้งค่าแรงและราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งราคาอาหารที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจะส่งแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อ ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาอาหาร โดยข้อมูลล่าสุดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนก.พ.55 อยู่ที่ร้อยละ 3.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่อัตราเงินพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 2.7 ทั้งนี้ สศค. คาดว่าในปี 55 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ร้อยละ 3.5 และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะอยู่ที่ร้อยละ 2.3 ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 1.8-2.8 (คาดการณ์ ณ เดือน ธ.ค. 54) โดย สศค.จะมีการปรับประมาณการอีกครั้งในเดือนมี.ค.55
3. ธนาคารกลางกรีซคาดเศรษฐกิจประเทศจะยังคงหดตัวและมีอัตราว่างงานที่สูงต่อเนื่อง
  • ธนาคารกลางกรีซคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะหดตัวร้อยละ 4.5 ในปีนี้ และจะยังคงอยู่ในภาวะถดถอยต่อไปในปี 56 และยังระบุในรายงานประจำปีว่าอัตราว่างงานจะยังคงอยู่สูงกว่าระดับร้อยละ 19 แม้ว่ารัฐบาลผสมของกรีซจะประสบความสำเร็จในการเจรจาทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนพันธบัตรครั้งประวัติศาสตร์กับบรรดาเจ้าหนี้ภาคเอกชน รวมถึงได้รับการอนุมัติเงินกู้งวดที่ 2 จากประเทศสมาชิกยูโรโซนและ IMF ซึ่งช่วยให้กรีซชำระหนี้ได้ โดยเมื่อพฤหัสบดีที่ผ่านมา IMF อนุมัติการจ่ายเงิน 2.8 หมื่นล้านยูโร (3.67 หมื่นล้านดอลลาร์) เพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับกรีซ
  • สศค.วิเคราะห์ว่า หลังจากที่กรีซสามารถบรรลุการแลกเปลี่ยนพันธบัตรมูลค่า 1.772 แสนล้านยูโร (2.325 แสนล้านดอลลาร์) ส่งผลให้กรีซมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะได้รับเงินช่วยเหลือรอบสองจาก IMF/EU เป็นวงเงินรวม 1.30 แสนล้านยูโร โดยมาตรการให้ความช่วยเหลือดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อช่วยปรับลดหนี้สาธารณะกรีซสู่ระดับร้อยละ 120 ของ GDP ภายในปี 2563 จากระดับร้อยละ 160 ในปัจจุบัน อย่างไรก็ดี สัดส่วนหนี้สาธารณะดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับที่สูงเกินกว่าที่จะทำให้กรีซชำระหนี้ได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ มาตรการให้ความช่วยเหลือรอบ 2 ดังกล่าว จำเป็นต้องแลกด้วยข้อตกลงที่กรีซต้องดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงการปรับลดค่าจ้างขั้นต่ำลงร้อยละ 20โดยประมาณ ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจกรีซมีความเสี่ยงที่จะถดถอยลงอย่างรุนแรง และอาจส่งผลให้กรีซไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการปรับลดหนี้สินและยอดขาดดุลงบประมาณตามเป้าหมายที่ต้องการได้

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ