Macro Morning Focus ประจำวันที่ 26 มีนาคม 2555
Summary:
1. เลวร้ายสุด! จีดีพีติดลบ 5.5% หากน้ำมันพุ่ง 195 เหรียญ สศค.ลุ้นเงินกู้แก้น้ำดันเศรษฐกิจโต
2. บุญทรงยันราคาสินค้าไม่ได้แพงขึ้น
3. ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯในเดือน ก.พ.55 ปรับตัวลดลงร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน
Highlight:
1. เลวร้ายสุด!จีดีพีติดลบ 5.5% หากน้ำมันพุ่ง 195 เหรียญ สศค.ลุ้นเงินกู้แก้น้ำดันเศรษฐกิจโต
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุกรณีเลวร้ายสุดเศรษฐกิจไทยเสี่ยงหดตัวต่ำถึง -5.5% เงินเฟ้อทะลุ 8% หากสถานการณ์ตะวันออกกลางรุนแรง น้ำมันดิบดูไบทะยาน 195 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ชี้โอกาสเกิดยาก ด้าน สศค.เล็งอัพจีดีพีโต 5.5 - 5.7% จากเดิมที่ระดับ 5% ซึ่งอยู่ในทิศทางเดียวกับการคาดการณ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยได้รวมผลประเมินแผนกู้เงินแก้น้ำท่วม 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจรวมถึงช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคประชาชนด้วย
- สศค.วิเคราะห์ว่า สถานการณ์น้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนในภูมิภาคตะวันออกกลาง อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะต่อไปได้ ซี่งขณะนี้ สศค.กำลังติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกว่าจะเกินระดับค่าเฉลี่ยที่ สศค.นำมาเป็นฐานคำนวณอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) หรือไม่ ทั้งนี้ สศค. คาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบในปี 55 มีแนวโน้มเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 111-121 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลโดยมีค่ากลางอยู่ที่ 106.0 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (คาดการณ์ ณ เดือนก.พ. 55) อย่างไรก็ดี สศค.จะมีการปรับประมาณการอีกครั้งในเดือนมี.ค. 55
2. บุญทรงยันราคาสินค้าไม่ได้แพงขึ้น
- รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าสินค้าส่วนใหญ่ในตลาดสดมีราคาลดลง แต่ยอมรับว่า ร้านค้าโมเดิร์นเทรด อาจมีราคาปรับสูงขึ้นบ้าง ส่วนอาหารสำเร็จรูป แม้ต้นทุนลดลงแต่ยังแพงกรมการค้าภายในได้มีการขึ้นบัญชีพ่อค้าคนกลางไว้เพื่อตรวจสอบว่ามีการซื้อสินค้าหน้าฟาร์ม และบวกราคาสูงเกินเป็นธรรมหรือไม่ ก็จะดูว่าระหว่างทางมีกี่คนเข้ามาเกี่ยวข้องกว่าจะถึงหน้าเขียง
- สศค.วิเคราะห์ว่า ราคาสินค้าหลายชนิดมีการปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปลายปีที่ผ่านมา จากภาวะอุทกภัย โดยเฉพาะราคาอาหารสด อย่างไรก็ตาม ราคาเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากเหตุการณ์อุทกภัยคลี่คลายในเดือน ม.ค. 55 ทั้งนี้ราคาสินค้าอาหารสดที่สำคัญได้มีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ไข่ไก่ เนื้อไก่ เนื้อหมู กะหล่ำ และข้าว โดยมีการปรับตัวลดลงร้อยละ -21.1, -4.9, -4.4, -54.6 และ -14.0 ตามลำดับ (ราคาเดือน ก.พ. 55 เทียบกับราคาเดือน พ.ย. 54) อย่างไรก็ตาม ราคาอาหารสำเร็จรูป และราคาน้ำมัน มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสูงขึ้นร้อยละ 1.2 และ 8.4 ตามลำดับ (ราคาเดือน ก.พ. 55 เทียบกับราคาเดือน พ.ย. 54) ทั้งนี้ การปรับตัวสูงขึ้นของราคาสินค้าทั้งสองประเภทข้างต้น จะส่งผลกระทบต่อแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในอนาคตให้มีการปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีสัดส่วนค่อนข้างสูงในตะกร้าเงินเฟ้อ (อาหารสำเร็จรูป และราคาน้ำมันเชื้อเพลิง มีสัดส่วนร้อยละ 14.5 และ 8.7 ตามลำดับ)
3. ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯในเดือน ก.พ.55 ปรับตัวลดลงร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ในเดือน ก.พ 55 อยูที่ 313,000 ยูนิต ขยายตัวร้อยละ 11.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือปรับตัวลดลงร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนโดยยอดขายในเดือน ม.ค. ถูกปรับตัวลดลงมาสู่ระดับ 318,000 ยูนิต จากก่อนหน้าที่อยู่ที่ 321,000 ยูนิต ส่วนราคาบ้าน (ราคากลาง) ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนที่ระดับ 233,700 ดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 6.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.3 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน นอกจากนั้น สต๊อกบ้านใหม่ในตลาดยังคงอยู่ในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 150,000 ยูนิตในเดือน ก.พ.55
- สศค. วิเคราะห์ว่า ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯที่ปรับตัวลดลงในเดือน ก.พ.55 นั้น สะท้อนเศรษฐกิจสหรัฐฯยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ เนื่องจากในระยะสั้นผู้บริโภคยังรู้สึกไม่มั่นใจในการซื้อบ้านใหม่ ประกอบกับปัญหาการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อ ส่งผลให้ตัวเลขยอดขายบ้านออกมาลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อน อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอดขายบ้านใหม่ที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลบวกต่อการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน และเศรษฐกิจของสหรัฐฯท้ายที่สุดในปี 2555 ทั้งนี้ สศค. คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2555 จะขยายตัวร้อยละ 1.9 (คาดการณ์ ณ เดือน ธ.ค. 54) ซึ่งจะมีการปรับประมาณการอีกครั้งในวันที่ 26 มีนาคม 2555
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:
Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th