Macro Morning Focus ประจำวันที่ 2 เมษายน 2555
Summary:
1. คาร์บอมบ์ที่หาดใหญ่อาจส่งผลต่อการลงทุน-การท่องเที่ยวอย่างน้อย 3 เดือน
2. พณ.ชี้ส่งออก Q1 ยังซึมจากผลกระทบน้ำท่วม
3. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนมี.ค. 55 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 76.2 สูงสุดในรอบ 12 เดือน
Highlight:
1. คาร์บอมบ์ที่หาดใหญ่อาจส่งผลต่อการลงทุน-การท่องเที่ยวอย่างน้อย 3 เดือน
- นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ เผยว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับมืองหาดใหญ่และ จ.สงขลา โดยภาพรวมมีประมาณ 500 ล้านบาท จากค่าเสียโอกาสของการลงทุนและการท่องเที่ยว เนื่องจากนักลงทุนและนักท่องเที่ยวจะลดลงในช่วง 3 เดือนเป็นอย่างน้อย ส่วนผลกระทบในระยะยาวคือการเปิดการค้าเสรีในปี 2558 หากฝ่ายความมั่นคงยังไม่มีมาตรการแก้ปัญหาเหตุการณ์ไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ ก็จะส่งผลกระทบมายัง อ.หาดใหญ่พื้นที่เศรษฐกิจของภาคใต้ทั้งทางตรงและทางอ้อมด้วย
- สศค.วิเคราะห์ว่า เหตุการณ์ความไม่สงบในหาดใหญ่อาจจะส่งผลกระทบต่อการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยว โดยจะส่งผลให้ภาคบริการมีการหดตัวในช่วงสั้นและจะกลับมาเป็นปกติได้ภายใน 2-3 เดือน ทั้งนี้หากพิจารณาจากข้อมูลล่าสุดในเดือน ก.พ.55 ซึ่งเป็นเดือนที่มีการลอบวางละเบิดในกทม. จำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศยังคงมีการขยายตัวได้อยู่ที่ระดับร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ สศค. คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยในปี 55 อยู่ที่ 20.8 ล้านคน คิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 6.0 เมื่อเทียบกับปีก่อน
2. พณ.ชี้ส่งออก Q1 ยังซึมจากผลกระทบน้ำท่วม
- อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก คาดว่าการส่งออกในไตรมาสแรกของปี 55 ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ในระดับต่ำ เนื่องจากอยู่ในช่วงการฟื้นตัวจากผลกระทบของอุทกภัย ส่งผลให้การส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าระดับปกติ แต่เชื่อว่าการส่งออกในไตรมาส 2 จะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นและกลับมาขยายตัวในระดับปกติหลังจากที่ภาคอุตสาหกรรมสามารถดำเนินกิจการได้เต็มศักยภาพ โดยทั้งปี 55 ยังคงยืนยันการส่งออกจะสามารถขยายตัวได้ 15% ที่มูลค่า 263,149 ล้านดอลลาร์
- สศค.วิเคราะห์ว่า จากข้อมูลล่าสุด มูลค่าการส่งออกของไทยในเดือนม.ค. และก.พ. 55 มีการชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด โดยขยายตัวเพียงร้อยละ -6.0 และ 0.9 ตามลำดับ ซึ่งการชะลอตัวเกิดจากผลกระทบของภาวะอุทกภัยในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้อุตสาหกรรมส่งออกที่สำคัญหลายแห่งได้รับความเสียหาย ต้องมีการปรับปรุงและซ่อมแซม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเล็กทรอนิกส์และอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิซึ่งมีสัดส่วนในการส่งออกมากถึงร้อยละ 13.8 และ 9.7 ตามลำดับ โดยในเดือน ก.พ.55 มูลค่าการส่งออกของอุตสาหกรรมทั้งสองประเภทหดตัวถึงร้อยละ -10.7 และ -6.5 ตามลำดับ ทั้งนี้ สศค.คาดว่าการส่งออกจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในไตรมาส 2 โดยคาดว่าทั้งปี 55 ปริมาณการส่งออกจะขยายตัวร้อยละ 8.8 (คาดการณ์ ณ เดือนมี.ค. 55)
3. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนมี.ค. 55 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 76.2 สูงสุดในรอบ 12 เดือน
- รอยเตอร์ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือนมี.ค. 55 อยู่ที่ระดับ 76.2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 54 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเดือนก.พ. 55 ที่อยู่ระดับ 75.3 เนื่องจากชาวอเมริกันมีมุมมองในแง่บวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ
- สศค. วิเคราะห์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือนมี.ค. 55 เพิ่มขึ้น เนื่องจากภาวะการจ้างงานที่ขยายตัวได้ดี โดยจำนวนคนว่างงานในเดือนมี.ค. 55 ลดลงสู่ระดับ359,000 ตำแหน่ง ได้ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70.0 ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องราคาน้ำมันดิบโลกและอัตราเงินเฟ้อจากภาวะความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลลบต่อการบริโภคภาคเอกชนและเศรษฐกิจสหรัฐฯให้ชะลอลงได้ ทั้งนี้ สศค. ได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวที่ร้อยละ 2.2 ต่อปี (คาดการณ์ ณ เดือนมี.ค. 55)
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:
Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th