ไตรมาสที่ 4 ปี 2554 (ต.ค.-ธ.ค.54) ดุลบัญชีเงินทุนขาดดุล 5,957 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 1,843 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ดุลการชำระเงินขาดดุล 4,421 ล้านดอลลาร์สหรัฐ1 และพบว่า ดุลการชำระเงินขาดดุลสูงสุดในรอบ 15 ไตรมาส สำหรับสาเหตุสำคัญของการที่ขาดดุลบัญชีเงินทุนมาจากมีการลงทุนโดยตรงของไทยในต่างประเทศสูง การออกไปลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศของกองทุนต่าง ๆ และการให้สินเชื่อทางการค้าของผู้ส่งออกแก่คู้ค้าต่างประเทศ
คาดว่าไตรมาสที่ 1 ปี 2555 (ม.ค.-มี.ค.55 ) ดุลบัญชีเงินทุนขาดดุล 1,050 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากการลงทุนโดยตรงของไทยในต่างประเทศเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศของไทยที่เพิ่มมากขึ้นรวมทั้งการให้สินเชื่อการค้าของผู้ส่งออกแก่คู้ค้าต่างประเทศตามมูลค่าการส่งออกที่ฟื้นตัว
ดุลบัญชีเงินทุนขาดดุล 5,957 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 1,843 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ดุลการชำระเงินขาดดุล 4,421 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับสาเหตุสำคัญหลักของการที่ขาดดุลบัญชีเงินทุนมาจากมีการลงทุนโดยตรงของไทยในต่างประเทศสูง การออกไปลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศของกองทุนต่าง ๆ และการให้สินเชื่อทางการค้าของผู้ส่งออกแก่คู้ค้าต่างประเทศ
การลงทุนโดยตรงสุทธิมีเงินทุนไหลเข้า 703 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเงินทุนไหลออก 2,201 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การลงทุนในหลักทรัพย์สุทธิมีเงินทุนไหลออก 540 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเงินทุนไหลเข้า 3,122 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการลงทุนอื่น ๆ สุทธิมีเงินทุนไหลออก 6,092 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเงินทุนไหลเข้า 3,451 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
1.1 สถานการณ์การลงทุนโดยตรง ไตรมาส 4 ปี 2554
การลงทุนโดยตรงสุทธิในไตรมาสที่ 4 ปี 2554 มีเงินทุนไหลเข้ามูลค่า 703 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศมีมูลค่า 1,932 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมีเงินทุนไหลออกลดลงร้อยละ 44.7 จากช่วงเวลาเดียวกัน ของปีก่อนหน้า สำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีมูลค่า 2,635 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 104.3
1.2 สถานการณ์การลงทุนในหลักทรัพย์ไตรมาส 4 ปี 2554
การลงทุนในหลักทรัพย์สุทธิไตรมาสที่ 4 ปี 2554 มีเงินทุนไหลออกมูลค่า 540 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เปลี่ยนแปลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีเงินทุนไหลเข้ามูลค่าถึง 3,122 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
การลงทุนในหลักทรัพย์ในต่างประเทศมีเงินทุนไหลออก (การซื้อหลักทรัพย์ที่ลงทุนในต่างประเทศของนักลงทุนไทย) มูลค่า 667 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับการลงทุนในหลักทรัพย์จากต่างประเทศมีเงินทุนไหลเข้ามูลค่า 127 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 96.8
การลงทุนในตราสารทุนจากต่างประเทศมีเงินทุนไหลเข้ามูลค่า 1,231 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับการลงทุนในตราสารหนี้จากต่างประเทศนั้น มีเงินทุนไหลออก 1,104 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3
จากข้อมูลตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า การซื้อขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในไตรมาสที่ 4 ปี 2554 มีมูลค่าการขายสุทธิ 30,232 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าการซื้อสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่เป็นการขายสุทธิสาเหตุที่มีการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นนั้น เป็นผลมาจากการเพิ่มการลงทุนและการซื้ออย่างต่อเนื่องของ Fund Flowในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงตลาดยุโรปและสหรัฐ ซึ่งยังคงเผชิญกับความเสี่ยงด้านการเงินเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกันการลงทุนในตราสารทุนจากต่างประเทศจากข้อมูลของ ธปท. มีการไหลเข้าของเงินทุน 38,199 ล้านบาท
1.3 สถานการณ์การลงทุนอื่น ๆ ไตรมาส 4 ปี 2554
การลงทุนอื่น ๆ สุทธิไตรมาสที่ 4 ปี 2554 มีเงินทุนไหลออก 6,092 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เป็นเงินทุนไหลเข้า 3,451 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ทั้งนี้เมื่อพิจารณาในรายละเอียดจะพบว่า การลงทุนอื่น ๆ ของชาวต่างประเทศในประเทศไทยนั้นได้ลดลง โดยมีเงินทุนไหลออก 7,244 ล้านดอลลาร์สหรัฐในขณะที่การลงทุนอื่น ๆ ของชาวไทยในต่างประเทศเพิ่มขึ้นสูงอยู่ที่ระดับ 1,152 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
คาดว่าไตรมาสที่ 1 ปี 2555ดุลการชำระเงินเกินดุล 2,450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และดุลบัญชีเงินทุนขาดดุล 1,050 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เป็นเงินทุนไหลเข้า 665 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ขาดดุลลดลงจากไตรมาส 4 ปี 2554 ร้อยละ 82.4 ซึ่งมีสาเหตุสำคัญมาจากการลงทุนโดยตรงของไทยในต่างประเทศเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศของไทยที่เพิ่มมากขึ้นรวมทั้งการให้สินเชื่อการค้าของผู้ส่งออกแก่คู้ค้าต่างประเทศตามมูลค่าการส่งออกที่ฟื้นตัว
การลงทุนโดยตรงสุทธิมีเงินทุนไหลเข้า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเงินทุนไหลออก4,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การลงทุนในหลักทรัพย์สุทธิมีเงินทุนไหลเข้า 3,00 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเงินทุนไหลเข้า 3,306 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือลดลงร้อยละ 9.3 สำหรับการลงทุนอื่น ๆ สุทธิมีเงินทุนไหลออกสูงถึง 4,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกัน ของปีก่อนที่มีเงินทุนไหลเข้า 1,756 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
คาดว่าการลงทุนโดยตรงสุทธิไตรมาสที่ 1 ปี 2555 มีการไหลเข้าของเงินทุนมูลค่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีการไหลออกของเงินทุน 4,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐขณะที่มูลค่าการออกบัตรส่งเสริมการลงทุนของ BOI ที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากลงทุนเพิ่มหลังจากเกิดภาวะอุทกภัย
คาดว่าการลงทุนในตราสารทุนของชาวต่างชาติในไตรมาสที่ 1 ปี 2555 มีมูลค่าเงินทุนไหลเข้า 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติมีมูลค่า 2,251 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการลงทุนอื่น ๆ คาดว่ามีการไหลออกประมาณ 4,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th