ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ดังนี้
1. พรรค Liberal Democratic Party อาจจะสนับสนุนนโยบายการปรับขึ้นภาษีผู้บริโภค
2. ดัชนีตัวที่ใช้วัดความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาวะธุรกิจโดยทั่วไปของผู้ประกอบการรายใหญ่ปรับตัว
-----------------------------------
พรรค Liberal Democratic Party (LDP) ซึ่งเป็นพรรคแกนนาฝ่ายค้านแสดงท่าทีว่าอาจจะสนับสนุนรัฐบาลในเรื่องร่างกฎหมายภาษีผู้บริโภคที่ให้มีการปรับขึ้นอัตราภาษีจากปัจจุบันที่อยู่ที่ร้อยละ 5 ให้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรก่อนทาการยุบสภาผู้แทนราษฎร โดยนาย Nobuteru Ishihara เลขาธิการพรรค LDP ได้เสนอเงื่อนไขต่อพรรค Democratic Party (DPJ) ซึ่งเป็นพรรคแกนนารัฐบาลว่า นาย Yoshihiko Noda นายกรัฐมนตรีจะต้องให้นาย Ichiro Ozawa อดีตหัวหน้าพรรค DPJ ที่ไม่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นอัตราภาษีผู้บริโภคออกจากพรรค DPJ และกาหนดวันยุบสภาผู้แทนราษฎร และจะยอมรับให้ร่างกฎหมายฯ ดังกล่าวผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร โดยนาย Shinzo Abe อดีตนายกรัฐมนตรีฯ ของพรรค LDP ได้เห็นชอบกับการเสนอของนาย Ishihara อย่างไรก็ตามนาย Sadakazu Tanigaki หัวหน้าพรรค LDP และสมาชิกพรรคบางส่วนเห็นว่าควรจะยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อทาการเลือกตั้งใหม่ก่อนโดยให้ทั้งพรรค LDP และพรรค DPJ ประกาศว่าการปรับขึ้นอัตราภาษีผู้บริโภคเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายของพรรคในการหาเสียงเพื่อจะสามารถร่วมกันพิจารณาร่างกฎหมายภาษีผู้บริโภคได้
นอกจากนี้พรรค LDP จะเสนอให้รัฐบาลมีการจัดตั้งกองทุนบานาญเพื่อรับประกันเงินบานาญแก่ผู้เกษียณอายุขั้นต่าจานวน 70,000 เยนต่อเดือนขึ้นมาและจัดให้มีระบบการแพทย์ดูแลผู้สูงอายุอีกต่อไป เมื่อดาเนินการเสร็จแล้วจึงนาร่างกฎหมายภาษีผู้บริโภคมาพิจารณาต่อไป
อย่างไรก็ตาม นาย Koriki Jojima DPJ Diet Affairs Committee Chairman ได้กล่าวว่าร่างกฎหมายภาษีบริโภคอาจจะพิจารณาในสภาหลังวันหยุดยาว (Golden Week)ในเดือนพฤษภาคม
ธนาคารกลางแห่งประเทศญี่ปุ่น (Bank of Japan: BOJ)ได้ประกาศผลการสารวจ Tankan ซึ่งสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในประเด็นต่างๆ เช่น ความคิดเห็นเกี่ยวกับภาวะธุรกิจทั่วไป ภาวะอุปสงค์และอุปทาน ภาวะยอดขาย และภาวะผลประกอบการเป็นต้น ในกลุ่มผู้ประกอบการขนาดใหญ่และผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อมทั้งในภาคอุตสาหกรรมและนอกภาคอุตสาหกรรมจานวน 10,894 ราย ทุก 3 เดือน
ทั้งนี้ดัชนีตัวที่ใช้วัดความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาวะธุรกิจโดยทั่วไป (Business Sentiment Diffusion Index: DI) ซึ่งเป็นตัวเลขหักจานวนบริษัทที่ให้ความคิดเห็นว่าสภาวะธุรกิจไม่ดีจากจานวนบริษัทที่ให้ความดิดเห็นว่าสภาวะธุรกิจดีผลการสารวจของ Tankan พบว่า DI ของกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ -4 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม โดยอุตสาหกรรมประเภทการแปรรูปปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 จุด จากระดับ -3 จุด ในการสารวจครั้งก่อนหน้า อยู่ที่ -1 จุด แสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตมีการฟื้นตัวขึ้นภายหลังจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้าท่วมในประเทศไทยและวิกฤตหนี้สาธารณะของภาคยุโรป แต่จากราคาน้ามันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นทาให้ภาคอุตสาหกรรมเคมีและเหล็กกล้าปรับตัวในทางลบ ส่วน DI ของผู้ประกอบการรายใหญ่ในภาคบริการมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 5 จุด ซึ่งการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2551 โดยมาจากความต้องการของโครงการฟื้นฟูความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น
ประเภท ไตรมาส 2(จำนวนเพิ่ม) คาดการณ์(จำนวนเพิ่ม) ผู้ประกอบการ ภาคการผลิต -4 (0) -3 (1) รายใหญ่ ภาคการบริการ 5 (1) 5 (0) ผู้ประกอบการ ภาคการผลิต -7 (13) -8 (-1) รายกลาง ภาคการบริการ -1 (3) -5 (-4) ผู้ประกอบการ ภาคการผลิต -10 (-2) -15 (-5) รายย่อม ภาคการบริการ -11 (3) -16 (-5) รวม ภาคการผลิต -7 (-2) -10 (-3) ภาคการบริการ -5 (2) -9 (-4)
สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลัง ณ กรุงโตเกียว
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th