สรุปความเห็นนักวิเคราะห์ต่อทิศทางตลาดเงินตลาดทุนสัปดาห์นี้
- นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มีความเห็นว่าค่าเงินในสัปดาห์นี้น่าจะอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปหลังจากตลาดเริ่มมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของประเทศสเปนและอิตาลี กอรปกับตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่แสดงแนวโน้มการฟื้นตัว ทาให้นักลงทุนส่วนหนึ่งน่าจะมีการโยกย้ายเงินทุนจากประเทศกาลังพัฒนากลับเข้าสู้ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ การชำระค่าสินค้าจากผู้นำเข้า อาทิ เครื่องจักรกล น่าจะเป็นปัจจัยเสริมให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
- อัตราดอกเบี้ย R/P 1 วัน จะยังคงอยู่ที่ 3.00 % เนื่องจากไม่มีการประชุม กนง.
- Bond Yield อายุ 2 ปี และ Bond Yield อายุ 10 ปี มีแนวโน้มที่ผลตอบแทน (YtM, อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นและระยะยาว) ปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากในสัปดาห์นี้จะมีการเปิดประมูลพันธบัตรของ ธปท. อายุ 2 ปี วงเงินมูลค่า 50,000 ล้านบาท นอกจากนี้การคาดการณ์เงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นจากนโยบายของรัฐบาล น่าจะมีส่วนทาใหู้ลตอบแทน ของพันธบัตร ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตามูลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 10 ปี น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 2 ปี เนื่องจากพันธบัตรระยะยาวเป็นที่ต้องการของนักลงทุนสถาบันมากกว่า
- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า SET มีโอกาสที่จะเคลื่อนไหวผันผวนมากในสัปดาห์นี้ หลังจากสิ้นสุดฤดูการจ่ายเงินปันูลของบริษัทจดทะเบียน ทาให้เกิดแรงเทขายทากาไร ในตัวดัชนีได้ง่าย นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าในการประมูลพันธบัตรสเปนเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มจะได้ข้อสรุปไปบ้างแล้วก็ตาม ปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรปที่ยังเรื้อรัง และยังมีความไม่แนนอนสูง กอรปกับความกังวลของตลาดเกี่ยวกับแนวโน้มการชลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่น่าจะกดดันสภาวะตลาดต่อไป อย่างไรก็ตาม นักลงทุนน่าจะเฝ้าติดตามแนวโน้มของมาตรการู่อนปรนทางการเงินจากูลการประชุมเฟดในกลางสัปดาห์นี้ และตัวเลขเศรษฐกิจที่สาคัญที่จะ ทยอยประกาศออกมาภายในสัปดาห์ อาทิ ผลประกอบกอบการของบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐ GDP สหรัฐไตรมาสที่ 1 เป็นต้น
- นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า นักลงทุนต่างชาติจะยังคงซื้อสุทธิทั้งในตราสารทุนและตลาดตราสารหนี้ต่อไป แต่อาจมีแรงขายสุทธิบ้างในส่วนของนักลงทุนสถาบัน
ความเห็น สศค.
- คาดว่า นักลงทุนต่างชาติจะยังคงซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้ เนื่องจากผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลไทยที่ยังคงสูงกว่าประเทศพัฒนาแล้วในหลายๆประเทศ และปริมาณพันธบัตรรัฐบาลที่จะมีการออกพันธบัตรเพิ่มขึ้นมาในสัปดาห์นี้น่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติยังคงลงทุนสุทธิในตลาดตราสารหนี้ ขณะเดียวกัน ทิศทางการซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศน่าจะยังคงซื้อสุทธิในตลาดตราสารทุนจาก momentum ของการซื้อขาย ต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่แนวโน้มของการซื้อขายน่าจะไม่ชัดเจนมากนัก เนื่องจากปัจจุบันตลาดทุนของไทยยังมีปัจจัยต่างประเทศจำนวนมากที่ยังกดดันตลาด
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th