ความคืบหน้าโครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อยและประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้คงค้างต่ำกว่า 500,000 บาท ที่มีสถานะหนี้ปกติ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 17, 2012 09:56 —กระทรวงการคลัง

นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยความคืบหน้าของโครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อย และประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้คงค้างต่ำกว่า 500,000 บาท ซึ่งคณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2555 ได้มีมติ ให้ความเห็นชอบหลักการดำเนินโครงการไปแล้ว โดยเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ที่มีหนี้ไม่เกิน 500,000 บาท ก่อนวันที่ 24 เมษายน 2555 ในสถาบันการเงินเฉพาะกิจ และมีสถานะปกติ ณ วันที่มายื่นแสดงความจำนงเข้าโครงการ โดยต้องไม่เป็นหนี้ประเภทสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเช่าซื้อ/ลิสซิ่ง สินเชื่อสำหรับผู้มีรายได้ประจำ และไม่เป็นลูกหนี้ที่ได้รับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือได้รับอัตราดอกเบี้ยเป็นกรณีพิเศษ ตามข้อตกลงของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ให้สามารถเลือกเลือกพักเงินต้นและ ลดอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อที่มีอยู่เดิมในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี หรือ ลดอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อที่มีอยู่เดิมในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี โดยไม่พักเงินต้น เป็นระยะเวลา 3 ปี (ระหว่างวันที่ 1 กันยายน 2555 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2558)

โครงการพักหนี้ฯ สถานะปกตินี้ ได้เริ่มให้ลูกหนี้ที่สนใจยื่นแสดงความจำนงเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2555 จนถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2555 กับสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่เข้าร่วมโครงการ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยังได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ประชาชนได้ให้ความสนใจกับโครงการนี้อย่างมาก โดยเพียง 2 วัน (วันที่ 2-3 พ.ค. 55) หลังการเปิดให้ยื่นแสดงความจำนง มีประชาชนสนใจเข้าร่วมโครงการแล้ว 70,403 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.87 ของ จำนวนประชาชนที่มีสิทธิทั้งหมด มูลหนี้ที่ได้รับการดูแลแล้ว 14,044 ล้านบาท ทั้งนี้ จำนวนผู้แสดงความจำนง ณ ปัจจุบันอยู่ระหว่างรวบรวมโดย กระทรวงการคลัง

      สถาบันการเงิน             จำนวนราย                                     มูลหนี้ (ล้านบาท)
                        ผลการลงทะเบียน 2 วัน      เป้าหมายที่เสนอ ครม.       ผลการลงทะเบียน 2 วัน      เป้าหมายที่เสนอ ครม.
ธ.ก.ส.                                 70,130               2,946,656                  14,026                 396,951
ธ.ออมสิน                                   193                 800,251                     8.2                  60,344
ธ.พ.ว.                                     18                   7,781                    3.03                   1,369
ธ.อิสลาม                                    62                   3,538                    6.85                     449
รวม                                    70,403               3,758,226               14,044.08                 459,113
ร้อยละของเป้าหมาย                          1.87                                            3.05

ที่มา: ธ.ก.ส. ธ.ออมสิน ธพว. ธอท.

ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ได้เร่งรัดให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ร่วมโครงการเร่งรัดการทำความเข้าใจกับลูกหนี้ให้มาใช้สิทธิที่มี เช่น การจัดคณะทำงานลงพื้นที่เพื่อพบลูกค้าในระดับชุมชน หรือการส่งหนังสือแจ้งลูกค้าผู้มีสิทธิโดยตรง เป็นต้น รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ โครงการให้สาธารณะมีความเข้าใจเจตนารมณ์ของการดำเนินโครงการนี้ โดยมุ่งเน้นว่าโครงการนี้ไม่ใช่การปลดหนี้หรือตัดเงินต้นทิ้งไป ซึ่งจะส่งผลต่อวินัยทางการเงิน และลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการจะต้องมีการชำระภาระหนี้ที่มีอยู่อย่างตรงเวลา และใช้โอกาสที่มีในช่วงระยะ เวลาที่เข้าโครงการอย่างคุ้มค่า กล่าวคือ ต้องมีการวางแผนและบริหารจัดการทางการเงินอย่างเป็นระบบและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยนำเงิน ที่ประหยัดได้ ไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ ทั้งการนำไปลดภาระหนี้อื่น ๆ ที่ไม่จำเป็น หรือนำไปลงทุนในการประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ อย่างยั่งยืนต่อไป ซึ่งกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างวางกลไกในการติดตามดูแลความคุ้มค่าของโครงการอย่างใกล้ชิด

สำนักนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

โทร. 02 273 9020 ต่อ 3697

--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 53/2555 11 พฤษภาคม 2555--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ