สถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2555

ข่าวเศรษฐกิจ Friday May 18, 2012 10:38 —กระทรวงการคลัง

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอแถลงสถานะ หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2555 ดังนี้

ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 มีนาคม 2555 มีจำนวน 4,473,206.88 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 41.43 ของ GDP โดยเป็นหนี้ของรัฐบาล 3,268,399.81 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,036,082.27 ล้านบาท และหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 162,544.80 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นสุทธิ 122,045.24 ล้านบาท โดยหนี้ของรัฐบาล และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ เพิ่มขึ้น 124,814.18 ล้านบาท และ 877 ล้านบาท ตามลำดับ ในขณะที่หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) ลดลง 2,977.64 ล้านบาท และ 668.30 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ นั้นไม่มีหนี้คงค้าง ทั้งนี้ รายละเอียดและสัดส่วนของหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2555 ปรากฏตามแผนภาพที่ 1 และตารางที่ 1 ตามลำดับ

1. หนี้ของรัฐบาล

1.1 หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้นสุทธิ 112,044.27 ล้านบาท เนื่องจาก

1.1.1 หนี้ต่างประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 97.64 ล้านบาท โดยผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้นสุทธิ 129.47 ล้านบาท และการชำระคืนสกุลเงินเหรียญแคนาดาและเงินเยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลง 31.83 ล้านบาท

1.1.2 หนี้ในประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 111,946.63 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจากการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 70,110 ล้านบาท และการออกตั๋วเงินคลัง 40,000 ล้านบาท

1.2 หนี้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดเชยความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 2,230.09 ล้านบาท เนื่องจากการไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่สอง (FIDF 3) ก่อนกำหนดโดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ จำนวน 2,230.09 ล้านบาท

1.3 หนี้เงินกู้ล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 15,000 ล้านบาท เนื่องจาก การกู้เงินล่วงหน้า (Pre-funding) จำนวน 15,000 ล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของพันธบัตร FIDF 3 ที่จะครบกำหนดในวันที่ 2 กันยายน 2555 วงเงิน 206,023.25 ล้านบาท โดยเงินที่ได้จะนำไปให้กองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการ ปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศบริหารลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงให้เกิดผลตอบแทนและลดต้นทุนในการทำ Pre-funding

2. หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน

2.1 หนี้ในประเทศ

2.1.1 หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง 2,299.48 ล้านบาท โดยเกิดจาก

  • การทางพิเศษแห่งประเทศไทยและการเคหะแห่งชาติไถ่ถอนพันธบัตร 539 ล้านบาท และ 2,000 ล้านบาท ตามลำดับ
  • รัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลค้ำประกันมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ มากกว่าการชำระคืน ต้นเงินกู้ 239.52 ล้านบาท

2.1.2 หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง 25.92 ล้านบาท โดยเกิดจาก

  • การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคออกและไถ่ถอนพันธบัตร 730 ล้านบาท และ 75 ล้านบาท
  • รัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ น้อยกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ 680.92 ล้านบาท

2.2 หนี้ต่างประเทศ

2.2.1 หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 1,380.72 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้นสุทธิ 42.64 ล้านบาท และ การเบิกจ่ายน้อยกว่าชำระคืนหนี้สกุลเงินเยนและการชำระคืนสกุลเงินเหรียญสหรัฐทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลง 1,423.36 ล้านบาท

2.2.2 หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 728.48 ล้านบาท โดยผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้นสุทธิ 1,549.59 ล้านบาท และการชำระคืนหนี้สกุลเงินยูโรและสกุลเงินเยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลงสุทธิ 821.11 ล้านบาท

3. หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน)

3.1 หนี้ในประเทศ

หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง 472 ล้านบาท โดยเกิดจาก

  • ธนาคารอาคารสงเคราะห์และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรไถ่ถอนพันธบัตร 3,000 ล้านบาท และ 1,000 ล้านบาท ตามลำดับ
  • ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ มากกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ 3,528 ล้านบาท

3.2 หนี้ต่างประเทศ

หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 196.30 ล้านบาท โดยผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้นสุทธิ 35.36 ล้านบาท การชำระคืนหนี้สกุลเงินเยนและเหรียญสหรัฐทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลง 231.66 ล้านบาท ดังรายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 5

4. หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 877 ล้านบาท เนื่องจากการกู้เงินระยะสั้นในประเทศของสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน

หนี้สาธารณะ จำนวน 4,473,206.88 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 322,455.79 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.21 และหนี้ในประเทศ 4,150,751.09 ล้านบาท หรือร้อยละ 92.79 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 4,350,640.48 ล้านบาท หรือร้อยละ 97.26 และหนี้ระยะสั้น 122,566.40 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.74 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง

ส่วนวิจัยนโยบายหนี้สาธารณะ สำนักนโยบายและแผน

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โทร. 0 2265 8050 ต่อ 5512

--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 55/2555 17 พฤษภาคม 2555--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ