ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ดังนี้
1. GDP ไตรมาสแรกปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7
2. คำสั่งซื้อเครื่องจักรประจำเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7
3. ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางแห่งประเทศญี่ปุ่น (Bank of Japan) เห็นชอบให้คงนโยบายทางการเงินตามเดิม
4. ญี่ปุ่นเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนเมษายน 2555 เท่ากับ 333.8 พันล้านเยน
-----------------------------------
Cabinet Office ได้เปิดเผยว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาส 1 ช่วงเดือนมกราคม - มีนาคม ของปีนี้ขยายตัวร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยคิดเป็นร้อยละ 4.7 ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวมากกว่าอัตราที่คาดการณ์ไว้ที่เป็นร้อยละ 4.1 เนื่องมาจากการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทของบรรดาบริษัทญี่ปุ่นเพื่อฟื้นฟูจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ส่วนการใช้จ่ายส่วนบุคคลปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 แต่การลงทุนสาธารณูปโภคปรับลดลงร้อยละ 3.8 จากร้อยละ 5.4
Cabinet Office เปิดเผยว่าคำสั่งซื้อเครื่องจักรประจำเมษายน 2555 เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 อยู่ที่ 788.6 พันล้านเยน ซึ่งการเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน โดยยอดเพิ่มหลักดมาจากคำสั่งซื้อเครื่องจักรในการขนส่งสิ่งค้าจากร้านค้าปลีกและร้านค้าส่งที่คาดว่าจะเปิดกิจการใหม่
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2555 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางแห่งประเทศญี่ปุ่น (Bank of Japan: BOJ) ได้เห็นชอบให้คงนโยบายทางการเงินที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เช่น กาหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 0 — 0.1 และการตั้งกองทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ทางการเงินและสินทรัพย์อื่นๆ เป็นจานวน 70 ล้านล้านเยนเป็นต้น ถึงแม้ปัญหาความไม่มั่นคงทางการเงินของสหภาพยุโรปได้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในตลาดการเงินทั่วโลกมากขึ้น แต่คณะกรรมการของ BOJ เห็นว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นนั้นกาลังฟื้นตัวอย่างคงที่ในปัจจุบันจึงลงความเห็นว่ายังไม่มีความจาเป็นที่จะต้องเพิ่มนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆ แต่ให้คงการดาเนินการนโยบายปัจจุบันและเฝ้าดูความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยสาคัญที่ทำให้ BOJ ยังไม่มีการตัดสินใจเพิ่มนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นเนื่องจากในช่วงหลังของเดือนมิถุนายน 2555 จะมีการประชุมและการเลือกตั้งที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกเป็นอย่างมากเช่นการเลือกตั้งของประเทศกรีกในวันที่ 17 มิถุนายน 55 ที่จะมีผลกระทบว่ากรีกจะยังคงใช้เงินสกุลยูโรต่อไปหรือไม่และการประชุม G20 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 -19 มิถุนายน 55 เป็นต้น ดังนั้น หลายฝ่ายจึงคาดว่า BOJ จะรอดูท่าทีและเตรียมประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในที่ประชุมนโยบายทางการเงินของ BOJ ครั้งต่อไปในเดือนกรกฎาคม 2555
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนเมษายน 2555 ลดลงร้อยละ 21 มีมูลค่าเท่ากับ 333.8 พันล้านเยน โดยปัจจัยหลักเป็นการขาดดุลการค้าที่มีมูลค่าเท่ากับ 463.9 พันล้านเยนเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน
โดยการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.2 อยู่ที่ 5.8855 ล้านล้านเยน โดยปัจจัยจากราคาก๊าสธรรมชาติ (LNG) และราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นในด้านการส่งออกนั้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.1 อยู่ที่ 5.4216 ล้านล้านเยน โดยมาจากการส่งออกยานยนต์เพิ่มขึ้น
ญี่ปุ่นมีการขาดดุลการบริการมีมูลค่าเท่ากับ 498.6 พันล้านเยน ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 พันล้านเยนจากเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า เนื่องจากมีการจ่ายชดเชยค่าประกันในความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ส่วนการเกินดุลรายได้จากดอกเบี้ยและเงินปันผลจากการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.4 อยู่ที่ 1.3980 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเวลา 13 เดือน รายละเอียดตามตารางที่แนบ
ดุลการชาระเงินระหว่างประเทศประจำเดือนเมษายน 2555
(Balance of Payments)
หน่วย: พันล้านเยน
รายการ เมษายน 2555 เมษายน 2554 1. ดุลบัญชีเดินสะพัด (Current Account Balance) 333.8 423.9 (เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า) (-21.2) (-69.6) 1.1 ดุลการค้าและบริการ (Goods & Services Balance) -962.5 -792.1 (เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า) (21.5) (-) 1.1.1 ดุลการค้า (Trade Balance) -463.9 -412.0 (เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า) (12.6) (-) การส่งออก (Exports) 5,421.6 4,879.8 (เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า) (11.1) (-12.7) การนำเข้า (Imports) 5,885.5 5,291.8 (เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า) (11.2) (12.2) 1.1.2 ดุลบริการ (Services Balance) -498.6 -380.1 1.2 รายได้จากดอกเบี้ย/เงินปันผล (Income) 1,398.0 1,302.2 1.3 การโอนรายได้ (Current Transfers) -101.6 -86.1 2. ดุลบัญชีทุนและการเงิน (Capital & Financial Account Balance) -30.4 -1,085.2 2.1 ดุลบัญชีการเงิน (Financial Account Balance) -28.5 -1,031.6 การลงทุนโดยตรง (Direct Investment) -880.9 -590.4 การลงทุนในหลักทรัพย์ (Portfolio Investment) 8,608.5 628.2 การลงทุนในตราสารอนุพันธ์ด้านการเงิน (Financial Derivatives) -330.7 -208.7 การลงทุนอื่นๆ (Other investments) -7,425.5 -860.6 2.2 ดุลบัญชีทุน (Capital Account Balance) -1.9 -53.6 3. ยอดเงินทุนสารองระหว่างประเทศสุทธิ (Changes in Reserve Assets) 285.4 63.1
สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลัง ณ กรุงโตเกียว
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th