รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 2 กรกฎาคม 2555

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 2 กรกฎาคม 2555

1. สมาคมกุ้งไทยกุมขมับปัญหาจีเอสพี-อียู กระทบการส่งออกกุ้งทรุด

2. นายกฯ มั่นใจคาดการส่งออกปี 55 ขยายตัวร้อยละ 15.0

3. ธนาคารกลางเวียดนามปรับลดดอกเบี้ยรอบที่ 5

• นายกสมาคมกุ้งไทย เปิดเผยว่าทิศทางของอุตสาหกรรมกุ้งไทยจากนีถื้อว่าน่าเป็นห่วงอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อสหภาพยุโรป หรือ อียู ได้ประกาศปรับเปลี่ยนเกณฑ์การให้สิทธิพิเศษทางศุลกากร หรือ จีเอสพี ตามที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาอียูเรียบร้อยแล้ว ซึ่งสินค้ากุ้งเป็น 1 ใน 57 รายการของสินค้าไทยที่ถูกตัดจีเอสพีระบบใหม่ เนื่องจากในอัตราภาษีใหม่ กุ้งดิบจะต้องเสียภาษีในอัตราเต็ม ที่ร้อยละ 12 จากที่ปัจจุบันเสียภาษีในอัตราร้อยละ 4.2 สำหรับสินค้ากุ้งสุกและกุ้งปรุงแต่ง จะต้องเสียภาษีในอัตราเต็มที่ร้อยละ 20 จากปัจจุบันเสียภาษีที่ร้อยละ 7 ซึ่งจากอัตราภาษีที่เพิ่มขึน้ อย่างก้าวกระโดดนี จะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกอย่างแน่นอน

• สศค.วิเคราะห์ว่าการส่งออกกุ้งของไทยเป็ นหนึ่งในอุตสาหกรรมส่งออกที่ทำรายได้ให้กับประเทศโดยในปี 54 มูลค่าการส่งออกกุ้งอยู่ที่ 1,752.96ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็ นสัดส่วนร้อยละ 0.76 ของการส่งออกทั้งหมด โดยสถานการณ์ล่าสุด การส่งออกกุ้ง 5 เดือนแรกของปี 55 ขยายตัวที่ร้อยละ 1.86 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ก่อน อย่างไรก็ตาม การส่งออกกุ้งไปยังสหภาพยุโรปมีการหดตัวที่ร้อยละ -15.93 จากผลของวิกฤติหนี้ยุโรป ทั้งนี้ ในวันที่ 13 มิ.ย. 55 สหภาพยุโรปได้มีการปรับเปลี่ยนเกณฑ์การให้สิทธิพิเศษทางศุลกากร (GSP) โดยในปี 57 สินค้าส่งออกไทยจะถูกตัดสิทธิ GSP ทั้งหมด เนื่องจากรายได้ต่อหัวของไทยเกิน 3.9 พันดอลลาร์ ติดต่อกันเกิน 3 ปี ซึ่งจัดเป็นประเทศรายได้ปานกลางตามนิยามของธนาคารโลกส่งผลให้สินค้าส่งออกไทย 57 รายการได้รับผลกระทบ รวมถึงสินค้ากุ้ง โดยจะต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงขึ้น ในขณะที่ประเทศคู่แข่งอย่างเวียดนามยังคงได้รับสิทธิ GSP เช่นเดิม ทำให้ไทยเสียความสามารถในการแข่งขัน รัฐจึงควรเร่งหามาตรการในการช่วยเหลือกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ

• วันที่ 30 มิ.ย. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อผลักดันการส่งออกสินค้าไทยที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ว่าได้มอบหมายให้มีการตัง้คณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับภาคธุรกิจ โดยเป้าหมายการส่งออกที่ตั้งไว้ร้อยละ 15.0 โดยต้องใช้ความพยายามอย่างสูง และรัฐบาลต้องการเห็นทุกภาคส่วนมาร่วมกันแก้ปัญหา และต้องปรับแผนการทำงาน ทั้งการแก้ไขปัญหาอุปสรรคส่งออก และการบุกเจาะตลาดเพิ่มเติม

• สศค. วิเคราะห์ว่า การส่งออกไทยในปี 55 คาดว่าจะขยายตัวในอัตราชะลอลงจากปี 54 ที่ขยายตัวที่ร้อยละ 16.4 โดยในช่วง 5 เดือนแรกปี 55 การส่งออกไทยหดตัวเล็กน้อยร้อยละ -1.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี ก่อน ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจากปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรปที่จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการส่งออกของไทย ซึ่งมีสัดส่วนการส่งออกประมาณร้อยละ 9.4 ของการส่งออกรวม อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังของปี 55 การส่งออกจะกลับมาขยายตัวในอัตราเร่ ง เนื่องจากปัจจัยฐานต่ำปี 54 ที่การส่งออกหดตัวจากปัญหาน้ำท่วมประกอบกับประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย อาทิ ประเทศในกลุ่มอาเซียน และจีนยังขยายตัวตัวได้ดี และจะเป็นประเทศคู่ค้าหลักที่ทำให้การส่งออกไทยขยายตัวได้ในปี 55 ทั้งนี้ ในปี 55 สศค.คาดว่าการส่งออกจะขยายตัวร้อยละ 12.8 และหากจะให้ได้ตามเป้าร้อยละ 15.0 อาจต้องมีการเจาะตลาดส่งออกเพิ่มเติม เช่น กลุ่มตลาดที่มีศักยภาพ เช่น แอฟริกา รวมถึงกลุ่ม BRIC

• ธนาคารแห่งรัฐเวียดนาม ประกาศการปรับลดดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ปล่อยกู้ให้แก่ธนาคารพาณิชย์เหลือร้อยละ 10 จากร้อยละ 11 ขณะที่ดอกเบีย้ มาตรฐานปรับลดลงจากร้อยละ 9 เหลือร้อยละ 8 ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนปรับลดลงเหลือร้อยละ 11 จากร้อยละ 12 ซึ่งการปรับลดดอกเบี้ยครั้งนีข้องธนาคารกลาง นับเป็นครั้งที่ 5 ภายในปีนี้หลังประกาศปรับลดไปเมื่อเดือน มี.ค. เม.ย. พ.ค. และ มิ.ย.ที่ผ่านมา

• สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจเวียดนาม มีแนวโน้มชะลอตัวจากปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้ธนาคารกลางเวียดนาม มีการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้นประกอบแนวโน้มอัตราเงินเฟ้ อเริ่มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดอัตราเงินเฟ้อเวียดนามในเดือน มิ.ย. 55 อยู่ที่ร้อยละ 6.9 จากเดือนก่อนที่อยู่ที่ร้อยละ 8.3 ทั้งนี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในครึ่งแรกของปี 55 อยู่ที่ร้อยละ 4.4 ซึ่งนับว่าชะลอตัวมากที่สุดในรอบ 3 ปี โดยสศค. คาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามในปี 55 จะขยายตัวร้อยละ 5.6 จากปี 54 ที่อยู่ที่ร้อยละ 5.9

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th