ฐานะการคลังภาครัฐบาล ตามระบบ สศค. ไตรมาสที่ 2 (มกราคม - มีนาคม 2555) และในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2555

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 4, 2012 10:08 —กระทรวงการคลัง

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผย ฐานะการคลังของภาครัฐบาล (รัฐบาล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) ตามระบบ สศค. (Government Finance Statistics : GFS) ในไตรมาสที่ 2 ขาดดุล 2.5 แสนล้านบาท ส่งผลให้ครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2555 ดุลการคลังภาครัฐบาลขาดดุล 4 แสนล้านบาท

ไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2555 (มกราคม - มีนาคม 2555) ดุลการคลังภาครัฐบาลขาดดุล 251,800ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 155,953 ล้านบาท โดยรัฐบาลมีรายได้ทั้งสิ้น 706,573 ล้านบาท สูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 46,989 ล้านบาท เนื่องจากการจัดเก็บภาษีที่สำคัญได้สูงขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังเหตุการณ์อุทกภัย และรัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้สูงขึ้น ขณะเดียวกันองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนจากรัฐบาลสูงขึ้น รวมทั้งบัญชีเงินนอกงบประมาณได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลสูงขึ้นที่สำคัญ คือ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำหรับการเบิกจ่ายของรัฐบาลรวมทั้งสิ้น 958,373 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วถึง 202,942 ล้านบาท หรือร้อยละ 26.9 เนื่องจากพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ล่าช้า (ผลบังคับใช้ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555) ส่งผลให้การเบิกจ่ายสูงขึ้น นอกจากนี้บัญชีเงินนอกงบประมาณมีรายจ่ายเงินชดเชยสูงขึ้นจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

ในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2555 ดุลการคลังภาครัฐบาลขาดดุล 401,251 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 3.5 ของ GDP) สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่ขาดดุล 322,206 ล้านบาท ส่วนดุลการคลังเบื้องต้นของรัฐบาล (Primary Balance) ซึ่งเป็นดุลการคลังที่สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของรัฐบาลและทิศทางของนโยบายการคลังของรัฐบาลอย่างแท้จริง โดยไม่นับรวมรายได้และรายจ่ายจากดอกเบี้ยและการชำระคืนต้นเงินกู้ขาดดุลทั้งสิ้น 360,033 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 3.6 ของ GDP) สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่ขาดดุล 279,892 ล้านบาท

นายสมชัย สัจจพงษ์ สรุปว่า “การขาดดุลการคลังของภาครัฐบาล ในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2555 เป็นไปตามนโยบายการคลังของรัฐบาลในปีนี้ที่เป็นงบประมาณแบบขาดดุล เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ นอกจากนี้การดำเนินมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลเพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจจะทำให้เศรษฐกิจประเทศไทยขยายตัวอย่างยั่งยืน”

ฐานะการคลังของภาครัฐบาลตามระบบ สศค. ในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2555 ภาครัฐบาล ขาดดุลการคลังทั้งสิ้น 251,800 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 2.2 ของ GDP) ขาดดุลสูงขึ้นจากช่วงเดียวกัน

ปีที่แล้ว 155,953 ล้านบาท โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

1. ผลการดำเนินงานของภาครัฐบาลในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2555

1.1 รายได้ภาครัฐบาล มีจำนวนทั้งสิ้น 706,573 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 6.1 ของ GDP) สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 46,989 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 7.1 เนื่องจากกรมสรรพากร กรมศุลกากรจัดเก็บรายได้สูงขึ้น และรัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้สูงขึ้น ในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีรายได้ทั้งสิ้น 180,710 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 1.6 ของ GDP) สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 21,204 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 13.3 โดยมีสาเหตุหลักมาจาก อปท. ได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนจากรัฐบาลสูงขึ้น นอกจากนี้บัญชีเงินนอกงบประมาณ มีรายได้ทั้งสิ้น 96,257 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 0.8 ของ GDP) สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 3,418 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 3.7 เนื่องจากกองทุนหลักประกันสุขภาพได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลสูงขึ้น

1.2 รายจ่ายภาครัฐบาล มีจำนวนทั้งสิ้น 958,373 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 8.3 ของ GDP) สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 202,942 ล้านบาท หรือร้อยละ 26.9 โดยรัฐบาลมีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 790,818 ล้านบาท สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วถึง 216,782 ล้านบาท หรือร้อยละ 37.8 เนื่องจากพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 มีผลบังคับใช้ล่าช้า (วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555) และบัญชีเงินนอกงบประมาณ มีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 76,009 ล้านบาท สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วถึง 8,045 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.8 สาเหตุหลักมาจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีรายจ่ายเงินชดเชยสูงมากขึ้น นอกจากนั้น รัฐบาลได้จ่ายคืนเงินกู้ต่างประเทศจำนวน 67 ล้านบาท ส่วนของ อปท. มีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 86,229 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 11,967 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.2 โดยมีสาเหตุหลักมาจาก อปท. บางแห่งอยู่ในระหว่างขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อซ่อมแซม และปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานจากปัญหาอุทกภัยที่ผ่านมา แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งมีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 5,383 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 8,941 ล้านบาท หรือร้อยละ 62.4 เนื่องจากในปัจจุบันอยู่ในช่วงปลายของแผนปฏิบัติการฯ

1.3. ดุลการคลังภาครัฐบาล จากรายได้และรายจ่ายข้างต้น ส่งผลให้ภาครัฐบาลขาดดุลการคลังจำนวน 251,800 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 2.2 ของ GDP) ขาดดุลสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 1.6 เท่าที่มีการขาดดุล 95,847 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 0.8 ของ GDP) สำหรับดุลการคลังเบื้องต้นของรัฐบาล (Primary Balance) ขาดดุลทั้งสิ้น 224,527 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 2.0 ของ GDP) ขาดดุลสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 2 เท่าที่มีการขาดดุล 73,702 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 0.6 ของ GDP)

2. ฐานะการคลังตามระบบ สศค. ในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2555 (ตุลาคม 2554 - มีนาคม 2555)

2.1 รายได้ภาครัฐบาล มีจำนวนทั้งสิ้น 1,314,498 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 11.4 ของ GDP) สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว 55,295 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.4

2.1.1 รัฐบาลมีรายได้ 831,519 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 7.2 ของ GDP) สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 26,590 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.3 เนื่องจากมีการจัดเก็บรายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเงินได้นิติบุคคล และอากรขาเข้าสูงขึ้น รวมทั้งรัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้สูงขึ้น

2.1.2 อปท. มีรายได้ทั้งสิ้น 271,779 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 2.3 ของ GDP) สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 37,897 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.2 เนื่องจากรัฐบาลจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่ อปท. สูงขึ้น

2.1.3 บัญชีเงินนอกงบประมาณมีรายได้ 211,201 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 1.8 ของ GDP) ลดลงจากปีที่แล้ว 9,193 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.2 เนื่องจากการยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2554 2.2 รายจ่ายภาครัฐบาล มีจำนวนทั้งสิ้น 1,715,750 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 14.8 ของ GDP) สูงขึ้นจากปีที่แล้ว 134,340 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.5 โดยเป็นการสูงขึ้นของรายจ่ายของรัฐบาล และบัญชีเงินนอกงบประมาณ ในขณะที่รายจ่ายของ อปท. เงินกู้ต่างประเทศ และแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งลดลง โดยมีรายละเอียด ดังนี้

2.2.1 รัฐบาลมีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 1,283,764 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 11.1 ของ GDP) สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 114,076 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.8

2.2.2 อปท. มีรายจ่ายทั้งสิ้น 189,144 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 1.6 ของ GDP) ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 8,723 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.4

2.2.3 ในช่วงครึ่งปีแรกมีการจ่ายคืนเงินกู้ต่างประเทศจำนวน 62 ล้านบาท

2.2.4 แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งมีการเบิกจ่ายจำนวน 11,434 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 0.1 ของ GDP) ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 25,564 ล้านบาท หรือร้อยละ 69.1 เนื่องจากในปัจจุบันอยู่ในช่วงปลายของแผนปฏิบัติการฯ

2.2.5 บัญชีเงินนอกงบประมาณมีการเบิกจ่ายจำนวน 242,904 ล้านบาท สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 30,086 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.1 โดยมีสาเหตุหลักมาจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และกองทุนประกันสังคมมีรายจ่ายสูงขึ้น 2.3. ดุลการคลังภาครัฐบาล ในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2555 ดุลการคลังภาครัฐบาลขาดดุล 401,251 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 3.5 ของ GDP) ขาดดุลสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 79,046 ล้านบาท หรือร้อยละ 24.5 ส่วนดุลการคลังเบื้องต้นของรัฐบาล (Primary Balance) ขาดดุลทั้งสิ้น 360,033 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 3.6 ของ GDP) ขาดดุลสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 80,141 ล้านบาท หรือร้อยละ 28.6

สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

โทร 02 273 9020 ต่อ 3551

--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 72/2555 3 กรกฎาคม 2555--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ