Macro Morning Focus ประจำวันที่ 10 กรกฎาคม 2555
Summary:
1. ธปท. คาด ศก.ไทยจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1-2 เดือนนี้
2. ธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออก พร้อมช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจยุโรป
3. ญี่ปุ่นเผยยอดคาสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนพ.ค.55 ร่วงลงร้อยละ 14.8
Highlight:
1. ธปท. คาด ศก.ไทยจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1-2 เดือนนี้
- ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธปท. เปิดเผยว่าระบบเศรษฐกิจไทยกาลังปรับตัวดีขึ้นในทุกด้าน โดยคาดว่าจะปรับตัวเข้าสู่ระดับปกติภายใน 1-2 เดือน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ในระดับใกล้ๆ ศูนย์ ดอกเบี้ยระยะยาว 5-10 ปี อยู่ในอัตราไม่ถึงร้อยละ 1 ขณะที่การเติบโตของสินเชื่อที่ผ่านมาก็ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเติบโต ร้อยละ 16 ซึ่งปัจจัยทั้งหมดถือเป็นการเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างดี อย่างไรก็ตาม ในช่วงสั้นๆ ภาวะเศรษฐกิจอาจชะลอตัวลงบ้าง เนื่องจากผลกระทบของเศรษฐกิจยุโรป ขณะที่รัฐบาลมีแนวโน้มการลงทุนเพิ่มเติม จึงเชื่อได้ว่าเศรษฐกิจไทยจะมีแนวโน้มมั่นคงพอสมควร
- สศค.วิเคราะห์ว่า จากเครื่องชี้ล่าสุดในเดือน พ.ค. 2555 พบว่าเศรษฐกิจไทยยังมีการขยายตัวได้ดีต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าอย่างชัดเจน สะท้อนจากการส่งออกที่กลับมาขยายตัวเป็นบวกอีกครั้งหลังจากที่หดตัวในรอบ 2 เดือน โดยกลับมาขยายตัวที่ร้อยละ 7.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การใช้จ่ายภายในประเทศก็ปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก โดยเครื่องชี้ด้านการบริโภคภาคเอกชนอย่าง ปริมาณจาหน่ายรถยนต์นั่งในเดือน พ.ค. 2555 ขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ร้อยละ 137.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทาให้คาดว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 จะสามารถขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ถึงแม้จะมีความกังวลจากปัญหาหนี้สาธารณะในกลุ่มสหภาพยุโรปที่อาจทาให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2555 จะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 5.7 (คาดการณ์ ณ มิ.ย.2555)
2. ธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออก พร้อมช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจยุโรป
- กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ ธสน. กล่าวว่าธนาคารพร้อมดูแลผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจยุโรป โดยขณะนี้สามารถปล่อยสินเชื่อเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการวงเงิน 1 แสนล้านบาท และยังมีวงเงินประกันการส่งออกให้ผู้ประกอบการอีก 4 หมื่นล้านบาท โดยไม่ต้องเป็นภาระให้รัฐบาลเพิ่มทุนให้ธนาคาร และยืนยันว่าธนาคารจะดูแลผู้ส่งออกไทยทั้งหมด ซึ่งมีประมาณ 26,000 ราย โดยเน้นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
- สศค.วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจในเขตยูโรโซนยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่องจากวิกฤตหนี้ยุโรป ซึ่งการชะลอตัวดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยผ่านช่องทางการส่งออก ทาให้แนวโน้มการส่งออกรวมของไทยชะลอลง เนื่องจากสหภาพยุโรปถือเป็นตลาดการส่งออกที่สาคัญอันดับ 4 ของไทย โดยมีสัดส่วนการส่งออกร้อยละ 9.4 ของการส่งออกรวม และจากปัญหาหนี้ยุโรปทาให้การส่งออกสินค้าไปยุโรปล่าสุดเดือน พ.ค.55 หดตัวร้อยละ -6.8 ส่งผลให้ 5 เดือนแรกของการส่งออกสินค้าไปยุโรปหดตัวในระดับสูงที่ร้อยละ -11.1 ซึ่งการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการของ ธสน. จะถือเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการเองก็ต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น โดยการหาตลาดใหม่ๆ มารองรับ
3. ญี่ปุ่นเผยยอดคาสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนพ.ค.55 ร่วงลงร้อยละ 14.8
- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของภาคเอกชนญี่ปุ่น ร่วงลงร้อยละ 14.8 ในเดือนพ.ค. มาอยู่ที่ระดับ 6.719 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดในรอบกว่า 7 ปี สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอของการลงทุนในสินค้าด้านทุน อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยูโรโซนและการแข็งค่าของสกุลเงินเยน
- สศค. วิเคราะห์ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรดังกล่าวสะท้อนการปรับลดค่าใช้จ่ายด้านทุนของบริษัทเอกชนในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับภาคการผลิตญี่ปุ่นที่วัดจากดัชนี PMI ที่ลดลงเหลือ 49.9 ในเดือน มิ.ย.55 ซึ่งเป็นการหดตัวลงครั้งแรกในรอบ 7 เดือน และแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ขยายตัวจากแรงหนุนของการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย (จาก Tsunami ปีก่อนหน้า) เริ่มชะลอตัวลง ขณะเดียวกันญี่ปุ่นยังคงเผชิญปัจจัยความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นไตรมาส 2 ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ขยายตัวที่ร้อยละ 4.7 (annualized)
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:
Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th