รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 27 กรกฎาคม 2555

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 27 กรกฎาคม 2555

1. กนง. ปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 55 เป็นร้อยละ 5.7 จากร้อยละ 6.0

2. IMF ชมจีนที่สามารถหลีกเลี่ยงการหดตัวทางเศรษฐกิจอย่างฉับพลัน

3. ธนาคารกลางยุโรปอาจพิจารณาให้ใบอนุญาตการประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์แก่ ESM

• เลขาฯ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า กนง. มีมติปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 55 ลงจากร้อยละ 6.0 มาอยู่ที่ร้อยละ 5.7 พร้อมลดคาดการณ์การเติบโตของการส่งออกจากร้อยละ 8.0 มาอยู่ที่ร้อยละ 7.0 หลังประเมินว่าความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกเพิ่มสูงขึน้

• สศค. วิเคราะห์ว่า ในระยะต่อไป เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนสูงจากปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป โดยมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศในกลุ่มยูโรโซนที่ประสบปัญหายังขาดความชัดเจนในหลายประเด็น ซึ่งยังคงต้อรอการพิจารณาอนุมัติ อาทิ 1) ขอบเขตอานาจของกองทุน EFSF และ 2) ความเพียงพอของเงินช่วยเหลือด้านสภาพคล่องต่อธนาคารพาณิชย์ของสเปน นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากการชะลอตัวของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯซึ่งยังมีความเปราะบางในภาคการจ้างงานและการบริโภค ส่วนการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนชะลอลงอย่างต่อเนื่องในหลายไตรมาสที่ผ่านมา ปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้อุปสงค์จากนอกประเทศชะลอลง สะท้อนจากมูลค่าการส่งออกล่าสุดในเดือน มิ.ย. 55 ที่หดตัวลงร้อยละ -2.5 จากช่วงเดียวกันปี ก่อน ทั้งนี้ สศค. คาดว่าในปี 55 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 5.7 (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 5.2-6.2 คาดการณ์ ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 55)

• กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวชมรัฐบาลจีนที่ปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินและการคลังที่ทาให้เศรษฐกิจจีนประสบความสาเร็จในการบริหารจัดการไม่ให้เศรษฐกิจจีนหดตัวอย่างฉับพลัน อย่างไรก็ตาม IMF ได้เตือนรัฐบาลจีนให้ควบคุมการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อป้ องกันภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์

• สศค. วิเคราะห์ว่า ทางการจีนดาเนินนโยบายทางเศรษฐกิจที่สาคัญ 2 อย่าง ได้แก่ 1) การปรับเปลี่ยนโครงสร้ งทางเศรษฐกิจให้พึ่งพาการลงทุนจากต่างประเทศน้อยลง อันจะนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และ 2) นโยบายระยะสั้นที่พยายามปกป้องเศรษฐกิจจีนจากวิกฤติยูโรโซน อย่างไรก็ตาม ในระยะที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนประสบกับการชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด สังเกตได้จากอัตราการเติบโตของจีนในไตรมาสที่ 2 ของปี 55 ที่ร้อยละ 7.6 จากช่วงเดียวกันในปี ก่อนหน้า ซ่งึ เป็ นระดับต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี ในขณะเดียวกันประเทศจีนได้ออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหลายอย่างรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จึงส่งผลให้เศรษฐกิจจีนมีการฟื้นตัวขึ้นบ้าง สังเกตได้จากราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับตัวสูงขึน้ ในหลายเมืองในเดือนนี้ และ โดยเบื้องต้น การสำรวจดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อปรับตัวดีขึ้น ที่จัดทาโดย HSBC ในเดือนนี้ที่ 49.5 จุด เทียบกับเดือนก่อนที่ 48.2 จุดอย่างไรก็ตาม หากทางการจีนดาเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป อาจจะส่งผลให้เกิดการปล่อยสินเชื่อมากเกินไป จนส่งผลให้เกิดฟองสบู่ได้ และขัดแย้งกับเป้ หมายระยะยาวของทางการจีนที่ตั้งเป้าลดการพึ่งพาการลงทุนเพื่อสร้ งการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะความท้าทายทางนโยบายของรัฐบาลจีนในอนาคต

• ธนาคารกลางยุโรปอาจพิจารณาให้ใบอนุญาตการประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ (Banking license) แก่กลไกถาวร ESM เพื่อให้ ESM สามารถระดมเงินฝาก อันเป็นการเพิ่มศักยภาพของ ESM ในการช่วยเหลือประเทศยุโรปที่ประสบปัญหาสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• สศค. วิเคราะห์ว่า จากวงเงินของกองทุน EFSF 4.4 แสนล้านยูโร ซึ่งจะแปลงสภาพเป็นกลไกถาวร ESM ที่ 5 แสนล้านยูโร ได้ให้ความช่วยเหลือแก่กรีซ ไอร์แลนด์ โปรตุเกส และไซปรัสแล้วประมาณ 2.5 แสนล้านยูโร และในการประชุมสุดยอดผู้นายุโรป (EU Summit)เมื่อปลายเดือน มิ.ย. 55 ได้อนุมัติเงินช่วยเหลือแก่ธนาคารพาณิชย์ของสเปนจากกองทุนEFSF จานวน 1 แสนล้านยูโร ดังนั้น วงเงินที่เหลือไม่น่าเพียงพอในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินในกรณีที่อิตาลีหรือประเทศอื่นๆ ขอรับความช่วยเหลือเพิ่มเติม ดังนั้น หากESM ได้รับ Banking License จะทา ESM มีศักยภาพมากขึ้นในการให้ความช่วยเหลือประเทศยุโรปที่ประสบปัญหา

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th