รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 27 กันยายน 2555

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday September 27, 2012 10:29 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 27 กันยายน 2555

Summary:

1. ธ.ทหารไทย ประเมินนโยบายการคลังมีบทบาทสนับสนุนเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจโลก

2. ผู้ส่งออกคาด การส่งออกไตรมาส 4 ชะลอตัว ส่งผลให้การส่งออกทั้งปีโตร้อยละ 5

3. "ปฏิรูปการเงินจีน" ตัวแปรที่จะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการเงิน

Highlight:

1. ธ.ทหารไทย ประเมินนโยบายการคลังมีบทบาทสนับสนุนเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจโลก
  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในปี 55 คาดว่าจะขยายตัวเพียงร้อยละ 5.0 ซึ่งต่ำกว่าที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5.5 หรือธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5.7 โดยมาตรการการคลังถือว่ามีส่วนสำคัญที่จะช่วยประคับประคองเศรษฐกิจไทยให้สามารถก้าวผ่านวิกฤติเศรษฐกิจในครั้งนี้ไปได้ โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการใช้มาตรการการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่าน โครงการรถคันแรก บ้านหลังแรก และมีการขึ้นค่าแรง 300 บาท ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 ม.ค. 56 พร้อมกันทั่วประเทศ โครงการรับจำนำข้าว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศ เป็นต้น
  • สศค. วิเคราะห์ การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 55 นั้น จะขึ้นอยูกับอุปสงค์ภายในประเทศเป็นสำคัญ โดยเฉพาะการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน โดย สศค. คาดว่า การลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัวร้อยละ 14.1 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 13.6 - 14.6) ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5.2 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 5.0 - 5.5) ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มรายได้ของประชาชนที่อยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะรายได้ภาคเกษตรที่มีแนวโน้มขยายตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปีตามปริมาณผลผลิตที่ขยายตัว และราคาสินค้าเกษตรที่คาดว่า จะยังได้ประโยชน์จากมาตรการแทรกแซงราคาของภาครัฐ ขณะที่รายได้นอกภาคเกษตรกรรม มีแนวโน้มที่ดีเช่นกันตามการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำและเงินเดือนข้าราชการ ทั้งนี้ ในปี 56 สศค. คาดว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวที่ร้อยละ 5.2 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.7 - 5.7) โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากอุปสงค์ภาครัฐและอุปสงค์จากต่างประเทศที่คาดว่าจะยังคงขยายตัวได้ อันมีปัจจัยสนับสนุนจากการเบิกจ่ายตามแผนบริหารจัดการน้ำในระยะยาวของภาครัฐวงเงินลงทุนรวม 3.5 แสนล้านบาทที่คาดว่าจะเริ่มทยอยลงทุนได้มากขึ้นในปี 56 ประกอบกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่แม้ว่าจะยังคงมีความเสี่ยง แต่มีแนวโน้มว่าจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ
2. ผู้ส่งออกคาด การส่งออกไตรมาส 4 ชะลอตัว ส่งผลให้การส่งออกทั้งปีโตร้อยละ 5
  • ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมรองเท้า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การส่งออกในไตรมาส 4 ปี 2555 มีแนวโน้มชะลอตัวลงเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนเพราะผู้ส่งออกรองเท้าได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจสหภาพยุโรป (EU) และสหรัฐฯที่ยังไม่ฟื้นตัว จึงทำให้การส่งออกรองเท้าปี 55 มีแนวโน้มติดลบร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ส่งออกได้ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งผู้ส่งออกบางรายได้รับผลกระทบจากการที่ผู้นำเข้าอียูหาข้ออ้างในการยกเลิกคำสั่งซื้อเพราะมีสินค้าค้างในสต็อกมาก และปัญหาดังกล่าวไม่ได้กระทบเฉพาะผู้ส่งออกรองเท้าไทยแต่ผู้ส่งออกรองเท้าจีนก็ได้รับผลกระทบด้วย
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การส่งออกของไทยล่าสุดในเดือนส.ค. 55 หดตัวร้อยละ -6.9 ซึ่งเป็นการหดตัวต่อเนื่องติดต่อการเป็นเดือนที่ 3 จากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยุโรปและการลุกลามของปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการผลิตและจำหน่ายสินค้าในหลายประเทศ ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของไทย อาทิ สิงคโปร์ สหภาพยุโรป จีนและญี่ปุ่น โดยสินค้าส่งออกที่ปรับตัวลดลงมากเป็นสินค้าในหมวดสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมเกษตรหดตัวร้อยละ -18.6 โดยเฉพาะข้าวหดตัวร้อยละ -35.7 ยางพาราหดตัวร้อยละ -44.1 และสินค้าในหมวดอิเล็กทรอนิกส์หดตัวร้อยละ -15.4 เป็นสำคัญ แต่อย่างไรก็ดี การส่งออกไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน-5 ที่มีสัดส่วนร้อยละ 16.9 ของการส่งออกรวม ยังคงขยายตัวร้อยละ 0.5 ในเดือนส.ค. 55 ทั้งนี้ สศค. คาดว่า มูลค่าการส่งออกรวมในปี 55 จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 4.5 (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.0 - 5.0)
3. "ปฏิรูปการเงินจีน" ตัวแปรที่จะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการเงิน
  • สัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีน และคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบการเงิน ออกมาเปิดเผยแผนปฏิรูปการเงินฉบับที่ 12 ระยะ 5 ปี ระหว่างปี 2554-2558 ซึ่งรวมถึงการปฏิรูปอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยให้เป็นไปตามกลไกตลาด และการปล่อยให้เงินหยวนสามารถแลกเปลี่ยนได้ภายใต้บัญชีทุนของจีน พร้อมกันนี้ จีนจะผลักดันการปล่อยเสรีอัตราดอกเบี้ย และการปฏิรูปกลไกที่ใช้ในการคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน รวมทั้งอนุญาตให้มีการเคลื่อนย้ายเงินทุนข้ามพรมแดน และกระตุ้นความสามารถในการแลกเปลี่ยนเงินหยวน รวมทั้ง จะส่งเสริมเงินทุนเอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการปฏิรูปธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทประกัน ตลอดจนแนะแนวทางเงินทุนเอกชนให้ขยายการลงทุนในสถาบันการเงิน อีกทั้งรัฐบาลจะสนับสนุนเงินทุนเอกชนในการตั้งธนาคารชนบท บริษัทสินเชื่อ และสหกรณ์การเงิน
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การที่ธนาคารกลางจีน และคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบการเงิน ออกมาระบุรายละเอียดแผนการและเป้าหมายหลักของแผนปฏิรูปการเงินระหว่างปี 2554-2558 ทำให้แผนการนี้มีความหมายอย่างยิ่งต่อการปรับปรุงระบบการเงินจีน และส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมการเงินจีนให้มั่นคง ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จีนต้องเผชิญความท้าทายมากขึ้นสำหรับกฎระเบียบการเงินมหภาค เนื่องจากสภาพแวดล้อมภายนอกมีความซับซ้อนขึ้น สืบเนื่องจากวิกฤติการเงินโลก นอกจากนี้ รายงานของบริษัทชั้นนำ 500 รายของจีน ที่เผยแพร่โดยสมาพันธ์วิสาหกิจจีน ชี้ว่า บริษัทผู้ผลิต 272 แห่งมีผลกำไรรวมกันประมาณ 25.04% ของผลกำไรทั้งหมด ถือเป็นอัตราต่ำสุดในรอบ 5 ปี ทั้งนี้ สัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศจีนเริ่มชัดเจนขึ้น โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตที่ออกโดย HSBC ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 ซึ่งสศค. คาดว่า เศรษฐกิจของประเทศจีนในปี 55 จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 7.8 (คาดการณ์ ณ เดือน ก.ย. 55)

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ