Macro Morning Focus ประจำวันที่ 25 ตุลาคม 2555
Summary:
1. กระทรวงพาณิชย์เผยมูลค่าการส่งออกของไทยเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2
2. ทิศทางยานยนต์ไทยผ่านมุมมองกรรมการผู้จัดการใหญ่โตโยต้า
3. ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 49.1 ในเดือนต.ค. 55
Highlight:
1. กระทรวงพาณิชย์เผยมูลค่าการส่งออกของไทยเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2
- รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ภาวะการค้าต่างประเทศของไทยในเดือน ก.ย. 55 การส่งออกมีมูลค่า 20.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 19.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวลดลงร้อยละ -7.7 ส่งผลให้เกินดุลการค้า 1.15 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ ส่งผลให้ภาวะการค้าต่างประเทศในช่วง 9 เดือนของปีนี้ (ม.ค. - ก.ย. 55) มูลค่าการส่งออกรวมเท่ากับ 172.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวลดลงร้อยละ -1.13 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำเข้ามีมูลค่ารวม 184.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.76 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ขาดดุลการค้าทั้งสิ้น 11.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ
- สศค. วิเคราะห์ว่า มูลค่าการส่งออกเดือน ก.ย. 55 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมีสาเหตุหลักมาจากการขยายการส่งออกที่เพิ่มขึ้นในตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ (Emerging Markets) อาทิเช่น อินเดีย ฮ่องกง และทวีปออสเตรเลีย โดยมีมูลค่าการส่งออกที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.2 8.6 และ 48 ตามลำดับ ขณะที่มูลค่าการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าหลักเดิม อาทิเช่น จีน สหภาพยุโรป และสหรัฐฯ ยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่องที่ร้อยละ -14.7 -12.9 และ -1.0 ตามลำดับ ซึ่งยังคงได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยูโรโซน ทั้งนี้ สศค. คาดว่า อัตราการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกโดยเฉลี่ยปี 55 อยู่ที่ร้อยละ 4.5 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.0 - 5.0 (คาดการณ์ ณ เดือน ก.ย. 55)
2. ทิศทางยานยนต์ไทยผ่านมุมมองกรรมการผู้จัดการใหญ่โตโยต้า
- กรรมการผู้จัดการใหญ่ บจ. โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) ได้ให้สัมภาษณ์ทิศทางของโตโยต้าต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในระยะข้างหน้าว่า โตโยต้ามีแผนลงทุนขยายการผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้นอีก ปัจจุบันปีละ 8.5 แสนคัน จะเพิ่มเป็น 1 ล้านคันภายในเวลา 2 ปี และเพิ่มเป็น 1.2 ล้านคัน ภายในเวลา 5 ปี ใช้เงินลงทุนอีกไม่น้อยกว่า 2 หมื่นล้านบาท ในการสร้างโรงงานเพิ่ม และในปีหน้าโตโยต้าจะเปิดโรงงานเกตเวย์แห่งที่ 2 เพื่อรองรับการผลิตรถอีโคคาร์ ซึ่งจะเปิดตัวประมาณเดือนสิงหาคมปีหน้า เมื่อรวมกับการเพิ่มกำลังการผลิตที่โรงงานที่สำโรงและที่บ้านโพธิ์ น่าจะผลิตรถได้ปีละประมาณ 1 ล้านคัน
- สศค. วิเคราะห์ว่า ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ของไทยสะสม 9 เดือน จำนวน 1,000,577 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 71.3 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเป็นครั้งแรกที่ตลาดรถยนต์ ภายในประเทศมียอดขายมากกว่า 1 ล้านคัน สอดคล้องกับภาษีรถยนต์ที่จัดเก็บได้เพิ่มขึ้น ถึงร้อยละ 26.2 ซึ่งสะท้อนถึงการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น และการฟื้นตัว อย่างชัดเจนของอุตสาหกรรมยานยนต์ภายหลังจากมหาอุทกภัย โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทุกบริษัทที่มีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาด ประกอบกับแรงจูงใจจากนโยบายรถยนต์คันแรกที่กระตุ้นการตัดสินใจซื้อรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การที่ผู้ผลิตรถยนต์มาเพิ่มการลงทุนในประเทศจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย สร้างงานและเพิ่มโอกาสในการส่งรถออกไปขายในประเทศอาเซียนด้วยกัน เป็นต้นทั้งนี้ สศค. คาดว่า อัตราการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชนเฉลี่ยในปี 55 จะอยู่ที่ร้อยละ 14.1 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 13.6 - 14.6)(คาดการณ์ ณ เดือน ก.ย. 55)
3. ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 49.1 ในเดือนต.ค. 55
- HSBC เผยค่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 49.1 จากข้อมูลขั้นสุดท้ายที่ 47.9 ในเดือนก.ย. โดยการปรับตัวขึ้นดังกล่าวอาจจะช่วยผ่อนคลายความกังวลของตลาดเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของจีน นอกจากนี้ HSBC ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าดัชนี PMI เบื้องต้นได้เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน จากดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ที่ปรับตัวดีขึ้น โดยดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ในเดือนต.ค.พุ่งมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน
- สศค. วิเคราะห์ว่า ดัชนี PMI ที่ปรับตัวขึ้นมาในเดือนต.ค. แสดงให้เห็นถึงสัญญาณการกลับมาขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศจีน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขยังคงต่ำกว่า 50 มาเป็นระยะเวลา 12 เดือนแล้วซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของจีนในเดือนต.ค. ยังคงหดตัว นอกจากนี้ GDP ในไตรมาส 3 ปี 55 ขยายตัวร้อยละ 7.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง จากการชะลอตัวของทั้งภาคเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชน และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกมูลค่าการส่งออก เดือน ก.ย. 55 ขยายตัวร้อยละ 9.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ขยายตัวสูงสุดในรอบ 3 เดือน ขณะทีมูลค่าการนำเข้า เดือนเดียวกันกลับมาขยายตัวเป็นบวกร้อยละ 2.3 ทำให้ดุลการค้าเกินดุล 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐได้ผล และยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการอื่นเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าหลักของจีน (ยุโรปและสหรัฐฯ) ถือเป็นความเสี่ยงต่อการส่งออกจีน ซึ่งสศค. คาดว่า เศรษฐกิจของประเทศจีนในปี 55 จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 7.8 (คาดการณ์ ณ เดือน ก.ย. 55 )
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:
Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th