รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2555

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 20, 2012 10:49 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2555

Summary:

1. ผู้ว่า ธปท.ยันดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบัน ยังสนับสนุนการลงทุนในประเทศได้ดี

2. สภาพัฒน์คาด ศก.ปีนี้ขยายตัว 5.5%

3. ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งกว่า 100 จุด รับความหวังโอบามา-คองเกรสบรรลุข้อตกลงการคลัง

Highlight:

1. ผู้ว่า ธปท.ยันดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบัน ยังสนับสนุนการลงทุนในประเทศได้ดี
  • ผู้ว่าการการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบัน ยังคงสนับสนุนการลงทุนในประเทศ และมองว่าการลงทุนในปีนี้ยังเติบโตได้พอสมควร ขณะที่อัตราการจ้างงานก็ยังอยู่ในระดับที่ดี พร้อมกล่าวถึงการประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในปีนี้ของทางสภาพัฒน์ ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 55 จะขยายตัวที่ร้อยละ 5.5 ว่า ถือเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับที่ทาง ธปท. คาดไว้ที่ร้อยละ 5.7
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ร้อยละ 2.75 โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 ในการประชุมเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจากกลุ่มสหภาพยุโรป ส่งผลต่อการส่งออกสินค้าของไทย อย่างไรก็ดีจากข้อมูลในไตรมาสที่ 3/55 พบว่าอุปสงค์โดยรวมภายในประเทศยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง ทั้งการบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวได้สูงที่ร้อยละ 6.0 และ 16.2 ตามลำดับ เที่ยบกับไตรมาส 2/55 ที่ขยายตัวได้ร้อยละ 5.3 และ 11.8 ตามลำดับ ทั้งนี้ กนง.จะประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 28 พ.ย.55
2. สภาพัฒน์คาด ศก.ปีนี้ขยายตัว 5.5%
  • สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ปีนี้ขยายตัวร้อยละ 3.0 ส่งผลให้ 9 เดือนแรกของปีนี้ เศรษฐกิจโดยรวมขยายตัวร้อยละ 2.6 แม้ว่าการส่งออกในภาพรวมยังดูชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 55 มีโอกาสขยายตัวได้ร้อยละ 5.5 ส่วนปีหน้าคาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 4.5 - 5.5 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกน่าจะฟื้นตัวได้ หลังจากที่ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่ชัดเจนออกมา ทำให้สานต่อนโยบายได้ต่อเนื่อง รวมถึงราคาสินค้าเกษตรน่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จะทำให้การส่งออกของไทยกลับมาขยายตัวได้ร้อยละ 12.2
  • สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/55 ขยายตัวร้อยละ 3.0 ชะลอตัวลงเล็กน้อยจากไตรมาสที่ 2/55 ที่ขยายตัวร้อยละ 4.2 โดยมีปัจจัยหลักจากการหดตัวของอุปสงค์ระหว่างประเทศที่ได้รับผลกระทบของวิกฤติเศรษฐกิจยุโรป ที่ส่งผลให้การส่งออกสินค้าและบริการในรูปดอลลาร์สหรัฐหดตัวร้อยละ -2.8 แต่อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยปี 55 ได้รับอานิสงส์จากแรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ภายในประเทศเป็นสำคัญ โดยเฉพาะการลงทุนรวมที่ขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 15.5 ตามการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชนและภาครัฐที่มีการขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 16.2 และ 13.2 ต่อปี ตามลำดับ ประกอบกับการบริโภคภาคครัวเรือนที่มีการขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 6.0 ตามรายได้ของประชาชนที่ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งนี้ สศค.คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 55 จะสามารถขยายตัวได้ที่ร้อยละ 5.5 (คาดการณ์ ณ ก.ย.55)
3. ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งกว่า100 จุด รับความหวังโอบามา-คองเกรสบรรลุข้อตกลงการคลัง
  • ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดบวกในวันนี้ (ตามเวลาสหรัฐ) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาการคลังของสหรัฐ หลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า เขาจะสามารถตกลงเรื่องงบประมาณกับสภาคองเกรสได้ โดย หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 100.14 จุด หรือ 0.80% แตะที่ 12,688.45จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 13.76 จุด หรือ 1.01% แตะที่ 1,373.64 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 33.70 จุด หรือ 1.18%แตะที่ 2,886.83 จุด
  • สศค. วิเคราะห์ว่า หลังจากสิ้นปี55 มาตการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐหลายๆ ตัวจะสิ้นสุดลง โดยเฉพาะมาตรการตัดลดภาษีเงินได้ (Payroll-tax cut)การให้สวัสดิการแก่ผู้ว่างงาน (Jobless benefits)และการให้เครดิตภาษีการลงทุน (Investment tax credit)ซึ่งจะส่งผลให้คาดว่าตัวเลขการขาดดุลการคลังของรัฐบาลระหว่างปีงบประมาณ2012 และปี2013 จะลดลงราว607 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือประมาณร้อยละ4ของGDP สหรัฐ) ดังนั้น หากรัฐบาลสหรัฐฯ สามารถบรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรสตามที่ บารัค โอบามา ประกาศไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff)(ที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการลดการใช้จ่ายและปรับขึ้นภาษีโดยอัตโนมัติตามที่กำหนดในช่วงปลายปีนี้) ได้ก็จะส่งผลบวกต่อความเชื่อมั่นของอเมริกันชน และเป็นปัจจัยบวกสำคัญต่อตลาดหุ้นสหรัฐดังกล่าว)

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ