รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 13 ธันวาคม 2555

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 13, 2012 13:12 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 13 ธันวาคม 2555

Summary:

1. S&P's ยืนยันแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของไทยที่ระดับมีเสถียรภาพ

2. BOI เปิดศูนย์ข้อมูลสนับสนุนธุรกิจไทยไปลงทุนในต่างประเทศอย่างเป็นทางการ

3. ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจทหารไทยคาดว่าเศรษฐกิจไทยปีหน้าจะขยายตัวร้อยละ 4.7

Highlight:

1. S&P's ยืนยันแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของไทยที่ระดับมีเสถียรภาพ
  • ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กล่าวว่าผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย โดยบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P's ได้ยืนยันระดับอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวและระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศ (Long-term / Short-term Foreign Currency Rating) ที่ระดับ BBB+/A-2 และระดับอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวและระยะสั้นสกุลเงินบาท (Long - term/Short - term Local Currency Rating) ที่ระดับ A-/A-2 และได้ยืนยันแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของไทยที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) นอกจากนี้ ยังยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยบน ASEAN Regional Scale ระยะยาวที่ axAA และระยะสั้นที่ axA-1 ตามลำดับ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า อันดับความน่าเชื่อถือของไทยในปัจจุบันที่ระดับ BBB+/A-2 ซึ่งต่ำกว่าในช่วงก่อนเกิด Asian Crisis ที่อยู่ที่อันดับ A- โดยมีปัจจัยมาจากระดับรายได้เฉลี่ยต่อหัวของไทยเท่ากับ 5,350 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่ค่ากลางของประเทศในกลุ่ม BBB median เท่ากับ 9,361 เหรียญสหรัฐ และกลุ่ม A เท่ากับ 19,702 เหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นข้อจำกัดของความน่าเชื่อถือของประเทศ โดยตัวชี้วัดทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณสุข และการศึกษาของไทยอยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่า ประกอบกับปัจจัยทางการเมืองถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของไทย ทั้งนี้ แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยที่มีทิศทางที่ดีขึ้น จากการที่ภาครัฐให้ความสำคัญในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ดีขึ้นจะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจและความน่าเชื่อถือให้กับนักลงทุน ซึ่งจะทำให้อันดับความน่าเชื่อถือของไทยมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นได้ในอนาคตต่อไป
2. BOI เปิดศูนย์ข้อมูลสนับสนุนธุรกิจไทยไปลงทุนในต่างประเทศอย่างเป็นทางการ
  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่าได้มอบหมายให้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จัดตั้งศูนย์ข้อมูลการลงทุนไทยในต่างประเทศขึ้น เพื่อเป็นหน่วยงานในการช่วยเหลือผู้ประกอบการด้วยข้อมูลทั้งทางด้านเศรษฐกิจ ต้นทุนในการทำธุรกิจในประเทศอาเซียน กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการจัดให้มีที่ปรึกษาการลงทุนจากผู้เชี่ยวชาญของแต่ละประเทศ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่จะคอยให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลสนับสนุนธุรกิจไทยไปลงทุนในต่างประเทศที่ครบวงจร ซึ่งมีการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในเชิงลึกและเป็นปัจจุบัน จะทำให้เป็นการเอื้อประโยชน์ต่อการตัดสินใจของนักลงทุนไทยที่มีความสนใจในการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศมากขึ้น ทั้งนี้ การลงทุนโดยตรงของไทยในต่างประเทศ จะช่วยทำให้ (1) เป็นการแสวงหาตลาดใหม่หรือรักษาส่วนแบ่งตลาดเดิมในประเทศที่มีตลาดขนาดใหญ่หรือมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูง (Market Seeking) (2) เพื่อแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติและเข้าถึงวัตถุดิบที่ถูกกว่าในประเทศ (Resource Seeking) และ (3) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ (Efficiency Seeking)
3. ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจทหารไทยคาดว่าเศรษฐกิจไทยปีหน้าจะขยายตัวร้อยละ 4.7
  • ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจธนาคารทหารไทยคาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 56 จะขยายตัวร้อยละ 4.7 ส่วนแนวโน้มในปี 55 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5 สำหรับปัจจัยที่ผลักดันให้เศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวมาจากนโยบายการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศของภาครัฐไม่ว่าจะเป็นค่าแรง 300 บาท โครงการรับจำนำข้าว หรือโครงการรถยนต์คันแรก นอกจากนี้ การลงทุนของภาคเอกชนและภาครัฐก็มีส่วนช่วยสนับสนุน ส่วนแนวโน้มปีหน้าคาดว่าการส่งออกจะขยายตัวประมาณ 7% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ที่จะช่วยผลักดันให้ส่งออกไทยไปจีนในช่วงครึ่งปีแรกขยายตัวเพิ่ม ขณะที่ปัญหาการคลังสหรัฐ (Fiscal Cliff) น่าจะมีการประนีประนอมกันได้ และส่งผลดีกับส่งออกในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่น่ากังวลคือ สถานการณ์หนี้ยุโรป ที่ยังไม่มีพัฒนาการที่ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญกดดันเศรษฐกิจไทย
  • สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจจีนในช่วงที่ผ่านมาขยายตัวในอัตราชะลอลง โดยล่าสุดในไตรมาส 3 เศรษฐกิจจีนขยายตัวร้อยละ 7.4 ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 7.6 ทำให้รัฐบาลจีนออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจีนให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่น การปฏิรูปดอกเบี้ย เป็นต้น จากตัวเลขล่าสุด จะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจจีนเริ่มกลับมาขยายตัวมากขึ้น โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมที่จัดทำโดย HSBC เดือน พ.ย. 55 ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 50.5 จุด ซึ่งอยู่เหนือระดับ 50.0 เป็นครั้งแรกในรอบ 13 เดือน จากการเร่งการลงทุนภาครัฐซึ่งส่งผลทางอ้อมให้อุตสาหกรรมภาคเอกชนขยายตัวดีขึ้น ในขณะเดียวกันดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ เดือน พ.ย. 55 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกันอยู่ที่ระดับ 55.6 จุด จากภาคการก่อสร้างที่ขยายตัว ส่วนประเด็น Fiscal Cliff ของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังคงซบเซาอยู่ แต่ก็น่าจะสามารถมีการประนีประนอมจากทั้งสองฝ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 55 และ 56 จะสามารถขยายตัวที่ร้อยละ 5.5 และ 5.2 (คาดการณ์ ณ เดือน ก.ย. 55)

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ