Macro Morning Focus ประจำวันที่ 24 ธันวาคม 2555
Summary:
1. สินค้ายอดขายคึกรับค่าแรง300
2. ธปท.เผยทุนสำรองประเทศเพิ่ม 500 ล้านเหรียญสหรัฐ
3. อียูอนุมัติเงินเพิ่มทุนกว่า 1.8 พันล้านยูโร อุ้มแบงก์สเปน 4 แห่ง
Highlight:
1. สินค้ายอดขายคึกรับค่าแรง300
- บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทยเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคในปี 2556 มีแนวโน้มปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนมาจากการปรับขึ้นค่าแรงงาน 300 บาทต่อวัน ซึ่งจะมีผลพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2556 ที่จะถึงนี้ จากปัจจัยดังกล่าวมองว่าจะทำให้คนกลุ่มใหญ่ของประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้นและมีกำลังซื้อที่ดีขึ้น จึงมองว่าเป็นโอกาสของธุรกิจต่างๆ ที่จะเข้ามาทำตลาด โดยเฉพาะกลุ่มสิน ค้าที่มีคุณภาพแต่ราคาสูง เพราะสินค้าดังกล่าวจะเข้าถึงผู้บริโภคได้ยาก
- สศค. วิเคราะห์ว่า เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีการชะลอตัวจากปัญหาวิกฤติหนี้ยุโรปและเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ยังไม่ฟื้นตัว เป็นผลให้ภาคการส่งออกของไทยต้องชะลอตัวในปี 55 อย่างไรก็ดี จากนโยบายรัฐบาลที่มีการกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศเพื่อทดแทนอุปสงค์นอกประเทศที่ชะลอตัวลง อาทิ นโยบายค่าแรง 300 บาท เงินเดือน 15,000 บาท โครงการจำนำข้าว เป็นผลให้ในปี 55 การบริโภคภาคเอกชนกลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย โดยจากข้อมูลล่าสุดการบริโภคภาคเอกชนใน 3 ไตรมาสแรกของปี 55 ขยายตัวถึงร้อยละ 4.7 ขณะที่ภาคการส่งออกหดตัวที่ร้อยละ -1.7
2. ธปท.เผยทุนสำรองประเทศเพิ่ม 500 ล้านเหรียญสหรัฐ
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานฐานะทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ 14 ธ.ค. 55 ว่า อยู่ที่ระดับ 1.826 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.596 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 1.53 หมื่นล้านบาท หากคิดอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันที่ระดับ 30.60 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าเป็นผลจากการเข้าดูแลแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทโดยการเข้าซื้อเงินเหรียญสหรัฐในตลาดส่งมอบทันที (Spot) เข้าเก็บในทุนสำรองฯ เพื่อดูแลปริมาณเงินตราต่างประเทศที่เริ่มไหลเข้ามามากขึ้น
- สศค. วิเคราะห์ว่า ทุนสำรองระหว่างประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น คาดว่าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการดูแลเสถียรภาพทางด้านอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ไม่ให้อัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนมากนัก โดยค่าเงินบาทตั้งแต่ต้นปี 55 ถึง 21 ต.ค. 55 อยู่ที่ระดับ 31.06 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หรือแข็งค่าขึ้นที่ร้อยละ 2.95 ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลหลักและสกุลเงินภูมิภาค โดยเฉพาะเงินยูโร ริงกิตมาเลเซีย วอนเกาหลี ดอลลาร์สิงคโปร์ และเงินหยวน อย่างไรก็ตาม จากการที่ทุนสำรองระหว่างประเทศปรับตัวสูงขึ้นจะเป็นปัจจัยบวกในแง่ของเสริมสร้างให้เสถียรภาพภายนอกทางเศรษฐกิจไทยให้มีความเข้มแข็งเพิ่มขึ้น และจะช่วยรองรับความความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกที่จะเข้าส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้
3. อียูอนุมัติเงินเพิ่มทุนกว่า 1.8 พันล้านยูโร อุ้มแบงก์สเปน 4 แห่ง
- สหภาพยุโรป (อียู) อนุมัติการเพิ่มเงินทุนให้แก่ธนาคารพาณิชย์ 4 แห่งของสเปนในวงเงิน 1.865 พันล้านยูโร (2.480 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างเสถียรภาพให้แก่ระบบธนาคารในประเทศ ในการช่วยเหลือครั้งนี้ ธนาคารลิเบอร์แบงก์จะได้รับการเพิ่มทุน 124 ล้านยูโร ธนาคารบังโก ซีอีไอเอสเอส 604 ล้านยูโร ธนาคารกาฮา3 407 ล้านยูโร และธนาคารบังโก มาเร นอสตรอม 730 ล้านยูโร
- สศค. วิเคราะห์ว่า แผนการปรับโครงสร้างธนาคารทั้ง 4 แห่งนี้ จะทำให้ธนาคารเหล่านี้มีศักยภาพในการสร้างกำไรอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้เกิดการฟื้นฟูภาคการเงินที่แข็งแกร่งในสเปน ซึ่งสเปนเป็นเศรษฐกิจสำคัญในกลุ่มประเทศยูโรโซน เนื่องจากมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของยูโรโซน รองจากเยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาลี ดังนั้น หากปัญหาในระบบการเงินของสเปนคลี่คลายลงจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจกลุ่มประเทศยูโรโซน ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจกลุ่มประเทศยูโรโซนในปี 2555 และปี 2556 จะขยายตัวร้อยละ -0.9 และ 0.5 ตามลำดับ (คาดการณ์ ณ ก.ย. 55)
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257