ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 มกราคม 2556 มีจำนวน 5,040,341.01 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 44.06 ของ GDP โดยเป็นหนี้ของรัฐบาล 3,531,418.63 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,063,503.28 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 438,465.57 ล้านบาท และ หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 6,953.53 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นสุทธิ 79,053.40 ล้านบาท โดยหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) และหนี้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น 73,901.47 ล้านบาท และ 14,778.78 ล้านบาท ตามลำดับ ในขณะที่หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐลดลง 9,316.43 ล้านบาท และ 310.42 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ นั้นไม่มีหนี้คงค้าง ทั้งนี้ รายละเอียดและสัดส่วนของหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2556
1. หนี้ของรัฐบาล
1.1 หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้นสุทธิ 17,933.78 ล้านบาท เนื่องจาก
1.1.1 หนี้ต่างประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 682.96 ล้านบาท โดยผลจากการเปลี่ยนแปลงของ อัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลง 2,335.69 ล้านบาท ประกอบกับการเบิกจ่ายและชำระคืนหนี้สกุลเงินต่างๆ ทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้นสุทธิ 3,018.66 ล้านบาท ทั้งนี้ หากพิจารณาในรูปเงินบาท หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงจำแนกเป็นสกุลเงินต่างๆ หลังจากที่ทำการป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว
1.1.2 หนี้ในประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 17,250.82 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจากการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 14,886.97 ล้านบาท
1.2 หนี้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดเชยความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 3,155 ล้านบาท เนื่องจากการไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินภายใต้หนี้เงินกู้ที่ออกภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ (FIDF 1) โดยใช้เงินที่ได้รับจากเงินหรือสินทรัพย์ของกองทุนฯ จำนวน 2,900 ล้านบาท และไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (R-bill) ภายใต้หนี้เงินกู้ที่ออกภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ระยะที่สอง (FIDF 3) โดยการทดรองจ่ายจากบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลัง (Premium FIDF 1 และ FIDF 3) จำนวน 225 ล้านบาท
1.3 หนี้เงินกู้ล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า
2. หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน
2.1 หนี้ในประเทศ
2.1.1 หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง 61.63 ล้านบาท โดยเกิดจาก
- องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพออกพันธบัตร 1,850 ล้านบาท และไถ่ถอนพันธบัตร 1,000 ล้านบาท การทางพิเศษแห่งประเทศไทยออกพันธบัตร 1,000 ล้านบาท และการเคหะแห่งชาติออกพันธบัตร 600 ล้านบาท
- รัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลค้ำประกันมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ น้อยกว่าการชำระคืนต้นเงินกู้ 2,511.63 ล้านบาท
2.1.2 หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 2,330.79 ล้านบาท โดยเกิดจาก
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคออกพันธบัตร 3,000 ล้านบาท และไถ่ถอนพันธบัตร 125 ล้านบาท
- รัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ น้อยกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ 544.21 ล้านบาท
2.2 หนี้ต่างประเทศ
2.2.1 หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 9,791.89 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลงสุทธิ 9,495.14 ล้านบาท ประกอบกับการเบิกจ่ายน้อยกว่าชำระคืนหนี้สกุลเงินเยน ทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปหนี้เงินบาทลดลงสุทธิ 296.75 ล้านบาท
2.2.2 หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 1,793.70 ล้านบาท โดยผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลงสุทธิ 3,595.53 ล้านบาท ประกอบกับการเบิกจ่ายและชำระคืนหนี้สกุลเงินต่างๆ ทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้นสุทธิ 1,801.83 ล้านบาท
3. หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน)
3.1 หนี้ในประเทศ
หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 74,178.80 ล้านบาท โดยเกิดจากการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ มากกว่าการชำระคืนต้นเงินกู้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
3.2 หนี้ต่างประเทศ
หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 277.33 ล้านบาท โดยผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลงสุทธิ 198.40 ล้านบาท ประกอบกับการชำระคืนหนี้สกุลเงินเยนและสกุลเงินเหรียญสหรัฐทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลง 78.93 ล้านบาท
4. หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 310.42 ล้านบาท โดยเกิดจากหน่วยงานอื่นของรัฐมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ น้อยกว่าชำระคืนต้นเงินกู้
หนี้สาธารณะคงค้าง จำนวน 5,040,341.01 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 347,083.34 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.89 และหนี้ในประเทศ 4,693,257.67 ล้านบาท หรือร้อยละ 93.11 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 4,852,288.66 ล้านบาท หรือร้อยละ 96.27 และหนี้ระยะสั้น 188,052.35 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.73 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
ส่วนวิจัยนโยบายหนี้สาธารณะ สำนักนโยบายและแผน สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
โทร. 0 2265 8050 ต่อ 5512
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 23/2556 11 มีนาคม 2556--