รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 13 มีนาคม 2556

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 13 มีนาคม 2556

1. เสนอร่าง พ.ร.บ. กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เข้า ครม. 19 มี.ค. 56

2. บลจ.วรรณมองแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจแตะระดับ 1,650 จุด

3. เงินเฟ้อผู้บริโภคจีนในเดือน ก.พ. 56 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 10 เดือน

Highlight:

• รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การหารือเกี่ยวกับการจัดทำร่าง พ.ร.บ. กู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท จะมีการปรึกษารายละเอียดเนื้อหาของ พ.ร.บ. และจะมีการกำหนดหลักการ วัตถุประสงค์ การบริหารจัดการเงินกู้ และคณะกรรมการพิจารณาโครงการ เพื่อให้สอดคล้องกับโครงการลงทุนและจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พิจารณาเห็นชอบในวันที่ 19 มี.ค. 56 นี้ นอกจากนี้ ในส่วนของการกู้เงิน ร่าง พ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาท ได้กำหนดว่าให้มีการกู้เงินให้แล้วเสร็จภายในปี 2563 แต่มีบางส่วนอาจแล้วเสร็จหลังปี 2563 ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการเริ่มลงทุนโครงการ
• สศค. วิเคราะห์ว่า ในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยมีต้นทุนด้านโลจิสติกส์ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดศักยภาพการแข่งขันสำคัญของประเทศอยู่ในระดับสูงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น เนื่องจากโครงสร้างการขนส่งหลักของประเทศยังคงใช้การขนส่งทางถนนในสัดส่วนถึงร้อยละ 82.6 ของการขนส่งทั้งหมด ซึ่งการขนส่งทางถนนมีต้นทุนพลังงานสูงกว่าการขนส่งทางน้ำ 5 เท่า และสูงกว่าทางราง 3.3 เท่า โดยล่าสุด ต้นทุนด้านโลจิสติกส์ต่อ GDP ของไทยในปี 54 อยู่ที่ร้อยละ 14.5 สูงกว่าสิงคโปร์ มาเลเซีย และสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 8 13 และ 8.3 ตามลำดับ นอกจากนี้ การจัดอันดับดัชนีความสามารถด้านโลจิสติกส์ของธนาคารโลกในปี 55 พบว่า ดัชนีความสามารถด้านโลจิสติกส์ของไทยอยู่อันดับที่ 38 ต่ำกว่าประเทศอื่นๆ เช่น สิงคโปร์ สหรัฐฯ มาเลเซีย ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 1 9 และ 29 ตามลำดับ ดังนั้น ร่าง พ.ร.บ. กู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ที่มีแผนการลงทุนในช่วงปี 2556-2563 ถือเป็นยุทธศาสตร์การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศทั้งทางด้านระบบขนส่งทางราง ทางถนน ทางน้ำ และทางอากาศ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบเพื่อเชื่อมโยงกับฐานการผลิตและฐานการส่งออกของประเทศ รวมทั้งการเร่งปรับโครงสร้างการบริหารจัดการระบบรางของประเทศให้มีประสิทธิภาพในระยะยาว และเชื่อมโยงโครงข่ายการบริหารจัดการขนส่งผู้โดยสาร สินค้าและบริการที่สะดวกและปลอดภัยทั้งในพื้นที่ชนบท พื้นที่เมือง และระหว่างประเทศ

• บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด กล่าวว่า ในปี 56 ตลาดหุ้นไทยได้รับความสนใจจากนักลงทุนมาก ทั้งยังมีแรงสนับสนุนจากปัจจัยภายนอกประเทศ จากค่าเงินสหรัฐที่อ่อนตัวลง ทำให้ค่าเงินในภูมิภาคเอเชียแข็งค่าขึ้น โดยมีความเป็นไปได้สูงที่จะเห็นดัชนีตลาดหุ้นไทยแตะระดับ 1650 จุดในปี 56
• สศค. วิเคราะห์ว่า จากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 12 มี.ค. 56 ดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ระดับ 1,576.68 ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 34.8 หรือเพิ่มขึ้นจากต้นปีที่ระดับ 1407.45 คิดเป็นร้อยละ 11.7 โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากเม็ดเงินลงทุนต่างชาติในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งมีมูลค่าการซื้อขายสุทธิสะสมตั้งแต่ (1 ม.ค. 56 - 12 มี.ค. 56) ที่ 4,550.9 ล้านบาท

• สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงาน ภาวะเงินเฟ้อผู้บริโภคประจำปีของจีนดีดตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 10 เดือนที่ร้อยละ 3.2 ในเดือนก.พ. 56 โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขยับขึ้นร้อยละ 1.1 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ทั้งนี้ ราคาอาหาร ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 1 ใน 3 ของการคำนวณค่า CPI ของจีนยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นภาวะเงินเฟ้อในเดือนก.พ. เนื่องจากเทศกาลดัชนี CPI ขยับขึ้นร้อยละ 1.98
• สศค. วิเคราะห์ว่า อัตราเงินเฟ้อของจีนที่ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนก.พ. 56 ปัจจัยหลักมาจากราคาอาหารที่มีสัดส่วน 1 ใน 3 ของการคำนวณอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นจากเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากเป็นช่วงที่ประชาชนจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอาหารทะเลและผักสด ที่ขยายตัวในอัตราชะลอลงมากจากร้อยละ 4.2 ในเดือนก่อนเป็นร้อยละ 2.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนอย่างไรก็ตาม ภาวะเงินเฟ้อที่ร้อนแรงในจีน ยังเป็นประเด็นที่มีความวิตกกังวลอย่างสูง หากราคาสินค้าสูงมากเกินไป อาจกระตุ้นให้รัฐบาลจีนคุมเข้มนโยบายทางการเงิน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 56 สศค. คาดว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 56 จะขยายตัวร้อยละ 8.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance

Tel: 02-273-9020 Ext. 3257