Macro Morning Focus ประจำวันที่ 7 มีนาคม 2556
1. ตลท. เปิดเผยว่า ในปีนี้ บจ.ใหม่จะยื่นไฟลิ่งและเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนมาก
2. ธ.ก.ส. ยืนยัน สภาพคล่องมีรองรับจำนำข้าวนาปรังรอบใหม่
3. ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 3
Highlight:
- รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai ) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีบริษัทที่ยื่นแบบเสนอขายหุ้น (ไฟลิ่ง) เพื่อเสนอขายหุ้น ต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO ) แล้วประมาณ 17 บริษัท หรือคิดเป็นมูลค่าตามราคาตลาด (market capitalization ) ประมาณ 1 แสนล้านบาท ขณะเดียวกันยังมีบริษัทที่อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อรอยื่นไฟลิ่งประมาณ 10 บริษัท คาดว่าจะสามารถยื่นได้ในเดือนเม.ย.และพ.ค.นี้ รวมทั้งมีบริษัทขนาดใหญ่อีกหลายบริษัทที่เตรียมไฟลิ่ง คาดยื่นประมาณภายในไตรมาส 3 ของปี 56
- สศค. วิเคราะห์ว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) เฉลี่ย ณ เดือน ก.พ. 56 เท่ากับ 1,541.6 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.8 จากช่วงสิ้นปี 55 market capitalization เท่ากับ 13.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.0 จากช่วงสิ้นปี 55 และอัตราเงินปันผลตอบแทนร้อยละ 2.67 และอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (per ratio) เท่ากับ 18.4 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 16.6 เท่า ณ สิ้นปี 55 ตามผลประการของบริษัทจดทะเบียนที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งสะท้อนได้จากกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนจำนวน 401 บริษัท ในปี 55 เท่ากับ 716.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนั้น การที่บริษัทต่างๆ ดำเนินการ IPO ในช่วงเวลานี้น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากมีความต้องการลงทุนของนักลงทุนจำนวนมากสะท้อนได้จากตั้งแต่ต้นปี 56 ถึงปัจจุบันนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ และนักลงทุนต่างประเทศได้ซื้อหลักทรัพย์สุทธิรวมกันกว่า 21.7 พันล้านบาท
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ยืนยันว่า ธนาคารมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะรองรับโครงการรับจำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 /2556 ที่จะเปิดรอบใหม่ เพราะ ธ.ก.ส. แยกบัญชีการทำธุรกรรม จากบัญชีธุรกรรมของนโยบายรัฐ ออกจากบัญชีธุรกรรมปกติของ โดยขณะนี้มียอดเงินฝาก 9 แสนล้านบาท สูงถึง 18 % ของยอดสินทรัพย์ทั้งหมด จึงยืนยันว่าจะไม่กระทบยอดเงินฝากของธนาคารทั้งหมด
- สศค. วิเคราะห์ว่า ตามมติ ครม. ให้มีการอนุมัติโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 ในส่วนของข้าวเปลืองนาปี จำนวน 15 ล้านตัน โดยดำเนินโครงการตั้งแต่ 1 ต.ค. 55 เป็นต้นไป และอนุมัติวงเงินเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นเงินจำนวน 240,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจุบันธ.ก.ส.ได้มีการปล่อยสินเชื่อตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2555/56 แล้วประมาณ 5 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินของ ธ.ก.ส. จำนวน 9 หมื่นล้านบาท และเงินของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จำนวน 4.1 แสนล้านบาท ซึ่งโครงการรับจำนำข้าวเปลือกมีวัตถุประสงค์หลักคือช่วยเหลือเกษตรกรซึ่งเป็นกำลังหลักของประเทศให้มีผลตอบแทนจากการผลิตที่สูงขึ้นทัดเทียมการประกอบอาชีพอื่นๆ รายได้จากการขายสินค้าเกษตรที่เพิ่มสูงขึ้นจะทำให้เกษตกรมีการบริโภคเพิ่มขึ้น
- ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับร้อยละ3 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ตามความคาดหมายของตลาด และยังเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า การลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้เศรษฐกิจออสเตรเลียปรับตัวดีขึ้น
- สศค. วิเคราะห์ว่า การที่ธนาคารกลางออสเตรเลียตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 3 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 หลังจากที่ได้มีการลดอัตราดอกเบี้ยก่อนหน้านี้ เนื่องจากสัญญาณเศรษฐกิจของประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น โดยตัวเลขล่าสุดของ GDP ในไตรมาสที่ 4 ขยายตัวได้ร้อยละ 3.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ จากตัวเลขล่าสุดของมูลค่าการส่งออก เดือน ธ.ค. 55 หดตัวร้อยละ -7.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากการส่งออกไปจีนที่ยังขยายตัวได้ดี และมูลค่าการนำเข้า เดือน ธ.ค. 55 กลับหดตัวร้อยละ -2.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้ดุลการค้า เดือน ธ.ค. 55 ขาดดุล -0.427 ร้อยล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ขาดดุลต่ำสุดในรอบ 10 เดือน ขณะที่อัตราการว่างงาน เดือน ม.ค. 56 ทรงตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ที่ร้อยละ 5.4 ของกำลังแรงงานรวม จากตัวเลขการจ้างงาน part-time ที่ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 20,200 ตำแหน่ง นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อขยายตัวมาอยู่ที่ร้อยละ 2.2 ในช่วงไตรมาสที่ผ่าน เร่งตัวขึ้นมาจากไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่ร้อยละ 1.9 ทั้งนี้ สศค. คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจออสเตรเลียจะขยายตัวร้อยละ 3.1 ในปี 56 (คาดการณ์ ณ เดือน ธ.ค. 55)
ที่มา: Bureau of Macroeconomic Policy,Fiscal Policy Office, Ministry of Finance
Tel: 02-273-9020 Ext. 3257